"คาร์ซีท"กับเหตุผลที่ทำให้คนไทยโกรธ เด็กตายเพราะไม่นั่งจริงหรือ อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ อ.นิด้าเผยที่มาที่ไปในใจที่ซับซ้อน เมื่อกฏหมายกำลังจะมัผลบังคับใช้
"คาร์ซีท" ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง จะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วันข้างหน้า หรือวันที่ 5 กันยายน 2565 โดย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 สาระสำคัญคือ
เกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กในมาตรา 123 คือ เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 ซม.ต้องนั่งคาร์ซีท บูสเตอร์ซีท หรือคาดเข็มขัดนิรภัย
หากไม่ปฏิบัติ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมีผลในอีก 120 วันข้างหน้า หรือวันที่ 5 กันยายน 2565
นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
ทำไมผู้คนถึง"โกรธ"กับการจ่ายแค่ 1000 กว่าบาทเพื่อคาร์ซีท เขาไม่รักลูกของเขาหรือ ชีวิตลูกเขาราคาถูกหรืออย่างไร
เชื่อว่าหลายคนที่มีคาร์ซีทและใช้เป็นประจำ และรักลูก ก็ยังโกรธ ใครๆก็โกรธ คนไม่มีเงินยิ่งโกรธ เขาโกรธอะไรขนาดนั้น เขาไม่รักลูกของเขาหรือ?
จริงๆเขาไม่ได้โกรธกฎหมายนี้เสียทีเดียว กฎหมายนี้ทำให้เขาโกรธเพราะมันทำให้นึกไปถึงเรื่้องอื่นๆด้วย
ที่มาที่ไปในใจผู้คนมันซับซ้อนทีเดียว
- ช่วงนี้เศรษฐกิจเลวร้ายสุดในรอบ 10 ปี เงิน 1000 บาทมีค่ามากสำหรับคนที่ไม่มีเงินจะเติมน้ำมันแล้ว และคนที่รถจะโดนยึดแล้ว มันเหมือนโดนซ้ำเติม
- เขาโกรธที่ต้องจ่ายเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของลูกเขา "อีกแล้ว" ในขณะที่เงินที่จ่ายไปมากมายผ่านภาษี มันล้มเหลวที่จะทำให้ชีวิตลูกของเขาดีขึ้น
.... เดี๋ยวผมจะขยายความข้อ 2 นี้ ...
- เขาโกรธเพราะรู้ว่าจะมี VIP อีกแล้วที่จะไม่ต้องทำตามกฎที่เกิดขึ้นนี้ เพราะกฎเดิมที่มีอยู่ก็เห็นกันบ่อยๆว่า "เคลียร์ได้"
- รถของเขาที่่ใช้นั่งกับครอบครัวประจำจะไม่มีวันทำถูกกฎหมายนี้ได้ ทั้งรถกระบะ 2 ประตูที่นั่งกัน 4 คน รถบรรทุกที่ลูกต้องนั่งไปกับพ่อแม่ แล้วถ้ามีลูกเล็ก 3 คนล่ะ ต้องซื้อรถ 6 ที่นั่งเลยเหรอ ก็แค่ไม่รวยพอที่จะมีรถหลายคัน หรือมีเงินพอจ้างคนดูแลลูกระหว่างทำงาน ก็ต้องกลายเป็นคนผิดกฎหมาย
- เขาเห็นเด็กเล็กขึ้นมอเตอร์ไซด์ ซ้อน 2 ซ้อน 3 กันเป็นปกติ ดูอันตรายสุดๆ แล้วทำไมสิ่งที่เขาทำและปลอดภัยกว่ามากถึงต้องกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
- ถ้าเราไม่ให้คนทำข้อ 5 คนก็จะลำบากมาก เพราะคนส่วนมากยากจนเกินกว่าจะใช้ชีวิตได้อย่างถูกกฎหมาย
เด็กส่วนใหญ่ถ้าจะตายบนถนนก็เพราะ
- ฟุตบาทเดินไม่ได้ ข้างถนนก็เดินไม่ได้เพราะมีรถจอด บางทีต้องไปเดินเกือบกลางถนน
- มอเตอร์ไซด์วิ่งบนฟุตบาท
- มอเตอร์ไซค์วิ่งย้อนศร
- รถกะบะก็ชอบวิ่งย้อนศร
- รถไม่หยุดตรงทางม้าลาย แถมวิ่งเร็วมาก
- รถขับความเร็วเกินกำหนดเยอะมาก โดยเฉพาะรถแพงๆ
- รถในข้อ 2,3,4,5 โดยเฉพาะ 6 ถ้าพลาดพลั้งชนลูกเราตาย ถ้าไม่เป็นกระแสใน Social แบบสุดๆ ก็อาจจะถูก "เคลียร์ได้"
- รถบรรทุกขับกันเป็น 100
- รถตู้รถนักเรียน ก็ขับกันเป็น 100
- ในสถานศึกษา ก็ยังขับกับเร็วกว่า 30 km/h เยอะแยะ
- ถนนท้องถิ่นหน้าบ้าน ถูกใช้เป็นทางลัดก็วิ่งกันเร็วระดับ High Way
- ถนนหน้าบ้านเส้นเล็กนิดเดียว ที่ลูกชาวบ้านพอใช้วิ่งเล่นเดินเล่น แต่ก็มีรถบรรทุกหนีรถติด หนีตำรวจ จากถนนใหญ่มาวิ่งด้วย
ขยายความข้อ 2 ทำไม คนถึงโกรธกับการจ่ายเพื่อลูกของเขา เพราะว่าที่จ่ายไปแล้วเขาพบว่า:
- ถนนคุณภาพต่ำมาก เลนแคบ หลุมบ่อ เส้นเลนไม่ชัด น้ำท่วมขัง ยูเทินเสี่ยงตาย
- การใช้ถนนดูแลกฎจราจรกันน้อยมาก อันตรายมาก ไม่มีใครใสใจมานานแล้ว
- PM 2.5 อากาศสกปรก ตายผ่อนส่ง ยังคุมไม่ได้นะ
- รร. รัฐบาลคุณภาพการศึกษาแย่มาก คนมีเงินต้องยอมจ่ายปีเป็นแสนเป็นล้าน เพื่อการศึกษาที่ดีเพียงพอของลูกเขา
- มีอาหาร สินค้า แนวคิด การปฎิบัติ ที่เป็นอันตรายกับเด็กๆอยู่มากมาย ทั้งที่ยังไม่ผิดกฎหมาย และที่ผิดกฎหมายแต่ "เคลียร์ได้"
ผมสนับสนุนการใช้คาร์ซีทนะ จำเป็นมาก และก็สนับสนุนความปลอดภัยของเด็กในเรื่องๆอื่นๆทั้งหมดด้วย
ปัญหาคือความใส่ใจในการบังคับใช้กฎหมาย และการป้องกันอภิหารของ VIP ต่างๆ ที่เราเห็นและเราเหนื่อยใจกับมันมาตลอด
นั่นคือที่มาของความ "โกรธ" ของผู้คนจำนวนมาก อย่าหาว่าเขาไม่รักลูกนะ เขาโกรธเพราะเขารักลูกเขานี่แหละ
สุดท้าย สำหรับคนไม่มีเงิน:
คนที่ไม่มีเงินจะซื้อคาร์ซีทมันมีจริงๆนะ และเขาจะไม่มีวันทำถูกกฎหมายนี้ได้ในตอนนี้
สิ่งที่รัฐบาลต้องทำก็คือ บริหารประเทศให้ได้ดี กอบกู้วิกฤตให้ได้ เติมเงินในกระเป๋าพวกเขาให้ได้เสียก่อนที่จะขู่ว่า
จะล้วงเงินออกจากประเป๋าของเขาเพียงเพราะเขาไม่มีเงินพอที่จะทำตัวให้ถูกกฎหมาย