คนท้องติดเชื้อโควิดอันตรายไหม อาการเป็นยังไง วิธีการรักษาทำแบบไหน อ่านเลย

27 เม.ย. 2565 | 22:11 น.

คนท้องติดเชื้อโควิดอันตรายไหม อาการเป็นยังไง วิธีการรักษาทำแบบไหน อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมคำตอบที่เกี่ยวข้องไว้ให้แล้ว

คนท้องติดเชื้อโควิดเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ เนื่องจากการท้อง หรือการตั้งครรภ์เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตครอบครัว 

 

แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ทำให้หลายครอบครัวเกิดความกังวล ห่วงว่าจะอันตราย และจะมีผลอย่างไรหรือไม่

 

"ฐานเศรษฐกิจ"  ดำเนินการสืบค้นข้อมูล เพื่อหาคำตอบเรื่องดังกล่าว พบว่า

 

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ต้องดูแลตัวเองและเจ้าตัวน้อยอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะหากคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโควิด-19 นอกจากจะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปแล้วยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอีกด้วย

 

สำหรับอาการของคุณแม่ตั้งครรภ์กับการป่วย COVID-19 ได้แก่

 

  • คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 2 ใน 3 มักไม่แสดงอาการ
  • คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมีอาการรุนแรงมักมีภาวะอ้วน อายุมาก มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ฯลฯ
  • คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสส่งต่อเชื้อไปยังลูก 2 – 5%
  • คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสทารกคลอดก่อนกำหนด 15.1%

ขณะที่อาการทั่วไปของคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วย COVID-19 ประกอบด้วย

 

  • ไข้
  • ไอแห้ง ๆ 
  • อ่อนเพลีย
  • หายใจติดขัด
  • เจ็บคอ
  • ท้องเสีย

 

คนท้องติดเชื้อโควิดอันตรายไหม อาการเป็นยังไง

 

การรักษาคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วย COVID-19

 

  • การให้สารน้ำ แก้ไขภาวะขาดสมดุลของเกลือแร่ ให้ออกซิเจน
  • การให้ยาต้านไวรัสในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง
  • การให้ยาปฏิชีวนะหากติดเชื้อแบคทีเรีย
  • การใช้เครื่องช่วยหายใจกรณีที่อาการรุนแรง ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยแพทย์
  • ข้อจำกัดในการรักษาคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วย COVID-19 คือ การใช้ยาบางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียงและคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่สามารถนอนคว่ำเพื่อรับออกซิเจนให้เพียงพอ จึงอาจต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพื่อเพิ่มระดับการให้ออกซิเจน

ความเสี่ยงเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วย COVID-19

 

  • ครรภ์เป็นพิษ 
  • คลอดก่อนกำหนด
  • เลือดแข็งตัวผิดปกติ
  • ทารกที่เกิดจากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ
  • คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์น้อยโอกาสที่ทารกจะได้รับเชื้อน้อยกว่าทารกในครรภ์ที่คุณแม่ใกล้คลอด
     

 

อย่างไรก็ดี คุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงโควิด-19 สามารถฝากครรภ์ได้ตามปกติ แต่ในคุณแม่ที่อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์หรืออยู่ในกลุ่มครรภ์เสี่ยงสูง 

 

หรือมีโรคร่วมอย่างความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไทรอยด์ หัวใจ หอบหืด ปอดเรื้อรัง  ไต ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ได้แก่

 

  • ฝากครรภ์ตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง โดยนัดเวลาล่วงหน้าเพื่อให้ใช้เวลาที่โรงพยาบาลน้อยที่สุด 
  • เลี่ยงการเดินทางโดยรถสาธารณะ
  • ผู้ติดตามที่ไปด้วยต้องไม่เกิน 1 คน
  • สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน 
  • ล้างมือให้บ่อย พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวตลอดเวลา
  • เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตรในทุกกิจกรรม
  • กลับถึงบ้านล้างมือ ถอดหน้ากากทิ้งทันที เปลี่ยนเสื้อผ้า
  • สังเกตความผิดปกติของการตั้งครรภ์ เช่น บวม ลูกดิ้นน้อยลง มีเลือดออกทางช่องคลอด เจ็บครรภ์ น้ำเดิน หากมีอาการรีบพบแพทย์ทันที 
  • ในช่วง 3 – 6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หากไม่มีการตรวจพิเศษอื่น ๆ อาจเลื่อนนัดได้ตามสถานการณ์


ส่วนกรณีคุณแม่ป่วย COVID-19 กับการให้นม นั้น ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการในการแพร่เชื้อไวรัสผ่านทางน้ำนม ดังนั้นทารกสามารถกินนมแม่ได้ แต่ต้องปฏิบัติตามแนวทางป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด

 

คุณแม่ที่สงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือคุณแม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีอาการไม่มาก สามารถกอดลูก ให้นมลูกได้ โดยสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือให้บ่อย

 

คุณแม่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ได้รับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) และดารุนาเวียร์ (Darunavir) ไม่ควรให้นมลูก

 

คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดพบแพทย์ตามนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่ออายุครรภ์ครบ 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์ตามคำแนะนำของแพทย์ 

 

สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือให้บ่อย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ที่สำคัญดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรง ไม่เครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป รับฟังข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 

 

  และหากคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโควิด-19 จะต้องเข้าระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด


ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข , โรงพยาบาลกรุงเทพ