“ไทยล้ำหน้าในอาเซียนทั้งด้านธุรกิจดิจิทัลและการลดคาร์บอน”

17 มี.ค. 2565 | 11:05 น.

ซีอีโอหัวเว่ยฯ (ประเทศไทย) ย้ำแนวคิดการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืน ชมทิศทางการพัฒนาของไทยก้าวหน้าจนนำชาติอาเซียน 1 ก้าวเสมอ

 ในงาน สัมมนา Go Green ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและสื่อในเครือเนชั่น วันนี้ (17 มี.ค.) นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Green for Future ระบุว่า เป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ และร่วมตอกย้ำถึงความสำคัญของกระแสการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ซึ่งถือเป็นการพัฒนาธุรกิจเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อม (Green Development) สอดคล้องกับ แนวนโยบายเศรษฐกิจ BCG model ของไทย ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ไปด้วยกัน เป็นโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีการนำแนวคิดการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มายกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

อาเบล เติ้ง

ทั้งนี้ ผู้บริหารของหัวเว่ยฯ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในรายงานขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) ระบุว่า แนวคิดนี้จะสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน และจะทำให้เศรษฐกิจของโลกเติบโตรุดหน้าได้มากขึ้น-เร็วขึ้น เพราะ BCG จะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้และลดการปล่อยคาร์บอนซึ่งเป็นก๊าซโลกร้อนก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ไม่เพียงเท่านั้น การนำเทคโนลีมาใช้ปรับรูปแบบการทำธุรกิจและกระบวนการทำงาน (Digitalization) ยังทำให้องค์กรธุรกิจมีการพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็ว และเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม

งานวิจัยยังพบว่า เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าเศรษฐกิจดั้งเดิมโดยเฉลี่ย 2.5 เท่า ทั้งนี้ พบว่า การเข้าถึงบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้น 10% สามารถเพิ่มการขยายตัวของจีดีพีได้ถึง 0.8-2.3% ขณะที่การเข้าถึงเครือข่ายโทรมือถือความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้น 10% สามารถเพิ่มการขยายตัวของจีดีพี 1.5-2.8% ส่วนการที่ธุรกิจเอกชนหันมาใช้ระบบคลาวด์ สามารถเพิ่มการขยายตัวของจีดีพีได้ 1.1%

 

เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีส่วนขับเคลื่อนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในยุคนี้หลัก ๆ ได้แก่ เครือข่ายโทรคมนาคม5G  ระบบคลาวด์ และเอไอ(ปัญญาประดิษฐ์) เทคโนโลยีเหล่านี้ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สามารถสร้างรายได้และช่วยประหยัดต้นทุนการลงทุนให้ไทยได้ราวม ๆกันถึง 3,400 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

หัวเว่ยฯ เองเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนร่วมกับประเทศไทยเช่นกัน ซีอีโอของหัวเว่ยฯ (ประเทศไทย) กล่าวว่า น่าภูมิใจที่ได้เห็นไทยเป็นผู้นำในด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาประเทศและมีจุดยืนเป้าหมายการลดคาร์บอนที่ชัดเจนและล้ำหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน โดยไทย “ก้าวนำหน้าชาติอื่นอยู่ 1 ก้าวเสมอ” และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่ประกาศเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปีค.ศ. 2050