"สันธนะ"เป็นใคร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดี "แตงโม นิดา" เช็กเลย

06 มี.ค. 2565 | 08:23 น.

"สันธนะ"เป็นใคร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดี "แตงโม นิดา" อ่านครบจบที่นี่ หลังขอเข้ามาร่วมเป็นพยานบอกเล่าในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ลั่นมีคนระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง

"สันธนะ ประยูรรัตน์" ชื่อนี้ กลับมาได้รับความสนใจจากประชาชนอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวเข้ามาขอร่วมเป็นพยานบอกเล่าในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หรือ แตงโม ภัทรธิดา ดาราสาวที่พลัดตกแม่น้ำก่อนเสียชีวิต โดยเจ้าตัวระบุว่า คดีนี้มีคนระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง

 

ซึ่งคำถามก็คือ สันธนะเป็นใคร ฐานเศรษฐกิจ จึงสืบค้นข้อมูล โดยพบว่า 

 

สันธนะ ประยูรรัตน์ นั้น เป็นอดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ในวงการสีกากี เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้ใจ เพราะบุคคลนี้มีประวัติโชกโชนและเกี่ยวข้องกับกิจการ สีเทาหลายเรื่อง

 

สันธนะ เกิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2502 เป็นบุตรคนที่ 3 ของ พล.ต.ต.สมชาย และนางนิตยา ประยูรรัตน์ และแต่งงานกับนางพรรณี ประยูรรัตน์ มีบุตร-ธิดา 2 คน

 

สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก กรุงเทพมหานคร, มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่นที่ 17), โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 33 เมื่อปี 2523, วิทยาลัยตำรวจ เอฟ.บี.ไอ ประเทศสหรัฐอเมริกา, ปริญญาตรี รัฐศาสนศาสตร์บัณฑิต, ปริญญาโท นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ก้าวเข้าสู่วงการสีกากี เริ่มรับตำแหน่งสำคัญในสายงานตำรวจเมื่อปี 2535 ในตำแหน่ง สารวัตรงาน 5 กองกำกับการ 3 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจสันติบาล ก่อนโยกไปเป็น สารวัตรงาน 4 ฝ่าย 4 กองตรวจคนเข้าเมือง 2 เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2538

 

ก่อนขึ้นเป็น รองผู้กำกับการชุดตรวจงานป้องกันปราบปราม ส่วนตรวจราชการ 5 สำนักงานจเรตำรวจ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2539 และรองผู้กำกับการ 1 กองตำรวจสันติบาล 2 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2543

 

กระทั่งปี 2545 พ.ต.ท.สันธนะ ถูกให้ออกจากราชการ ข้อหา ขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนันของ สน.บางกอกน้อย หลังจากนั้น พ.ต.ท.สันธนะ ได้ผันตัวเข้าสู่วงการการเมือง ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชากรไทย และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในปี 2549 แต่ก็ต้องพับกระเป๋ากลับ เนื่องจากสอบตก 

 

สันธนะชี้คดีแตงโม นิดา มีคนระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง

 

และในปีเดียวกันนี้เอง พ.ต.ท.สันธนะ ถูกลอบสังหาร แต่เจ้าตัวกลับรอดหวุดหวิด โดยลูกน้องคนสนิทรับเคราะห์แทน และในปี 2550 พ.ต.ท.สันธนะ ได้ลงสมัคร ส.ส. กทม. เขต 5 ในนามพรรคประชากรไทย แต่ก็ต้องสอบตก

 

ต่อมาในปี 2552 พ.ต.ท.สันธนะ ถูกตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงใหม่ จับกุม ในข้อหาพกพาอาวุธปืน โดยไม่มีเหตุอันควร ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งตำรวจชุดจับกุม ระบุว่าการเข้าจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ เนื่องมาจาก พบพฤติกรรม ที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะกลุ่มผู้ต้องหา เข้าข่ายไปข่มขู่คนที่อยู่ตามชายแดน หรือคนที่ข้ามไปเล่นกาสิโนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

 

โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และอ้างว่าทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัดและภาค 5 ถือว่าอุกอาจมาก อีกทั้ง ที่ผ่านมาจะพาพรรคพวกมาปิดล้อม รีดไถเงินจากผู้ที่เดินทางไปเล่นการพนันบ่อยครั้ง และมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นก็ขัดขืน

 

หลังจากนั้น พ.ต.ท.สันธนะ ได้ห่างหายไปจากหน้าสื่อ จนปี 2554 เจ้าตัวได้นำหนังสือเข้าร้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อเอาผิด สนามม้าราชกรีฑาสโมสร ถึงความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการจัดแข่งม้าการกุศล

 

ปี 2555 เจ้าตัวก็ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับขบวนการไซฟ่อนเงิน จากการทุจริตในภาครัฐ ไปฮ่องกง

 

ปี 2556 พ.ต.ท.สันธนะ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแกนนำ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และถูกดำเนินคดีก่อการร้ายบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 และปัจจุบัน ยังมีการออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เกี่ยวกับวงการพนันในสนามแข่งม้าด้วย

 

และจากข้อมูลพบว่า พ.ต.ท.สันธนะ ยังอาศัยช่องทาง ที่เป็นบุคคลกว้างขวางรับเป็นนายหน้า ดูแลผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนต่างๆจนกระทั่งมีกกรณีที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 400 นาย เข้าทำการตรวจค้นร้านค้า ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง หลังได้เบาะแสะ ว่ามีการลักลอบขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. 

 

ทำให้ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ในฐานะ ประธานกรรมการบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ได้ปรากฎตัว ทวงถามถึงการปฎิบัติหน้าที่ในการเข้าตรวจค้นร้านค้า พร้อมกับไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตั้งศูนย์ปฎิบัติการในพื้นที่

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 มีนาคม ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางมาประสานตำรวจเพื่อขอร่วมเป็นพยานบอกเล่าในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หลังจาก พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าว่า ไม่มีความเกี่ยวข้อง จึงจะไม่เรียกมาสอบปากคำ

 

นายสันธนะ ระบุว่า คงไม่ต้องรอหรือให้ตำรวจออกหมายเรียก เพราะทราบว่ากำลังจะมีการสรุปคดีแล้ว และอาจมีการแถลงข่าวซึ่งก็ดี ทุกอย่างจะได้คลี่คลาย เรื่องนี้อาจไม่ถูกใจทุกคน แต่ก็ไม่เป็นจริงหรือไม่ถูกต้อง

 

ส่วนเหตุที่ตนมา ก็เพราะบ่ายโมงวันจันทร์นี้ ตั้งใจจะมาที่นี่เอง แต่ผ่านมา เลยแวะมาแจ้ง ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ว่าตัวเองพร้อมจะมาให้รายละเอียดในคดีนี้ จึงอยากให้เตรียมพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีไว้ให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้รับการประสานกลับ ซึ่งตนก็มีข้อมูลสำคัญทางคดีที่พอจะเปิดเผยได้ และจะสอบถามในบางประเด็นที่อาจยังไม่มีการสอบสวน หากเห็นว่าสิ่งที่ตนแนะนำแล้วยังไม่ทำก็คงผิดปกติ หากโดนปิดประตูก็จะหาช่องทางอื่นเอาตัวเองเข้าไปในคดีนี้ให้ได้

 

นายสันธนะ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพยายามทำลายหลักฐานที่สำคัญทางคดี หรือทำไปแล้วด้วยซ้ำ คนเกี่ยวข้องก็เป็นมือสืบสวนสอบสวน รู้มือกันมาก่อน ตอนนี้มีประเด็นเดียวที่เขาเชื่อ ไม่คิดถึงประเด็นอื่น คือเรื่องการที่แตงโมตกสปีดโบ๊ต ที่ตนถามแทนประชาชนก็ยังโดนนิ่งไม่ตอบ ฉะนั้นวันจันทร์ต้องให้ตนมีโอกาสได้ถามเขา แล้วจะบอกทุกคนแน่ ขอให้ได้พบก่อน เชื่อว่ามีประโยชน์แน่ๆ

 

ถามว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ ต้องมีเจตนา เรื่องนี้เป็นองค์ประกอบการแจ้งข้อหา แต่พนักงานสอบสวนมีความเห็นแล้วสรุปว่าเป็นการกระทำโดยประมาท แสดงว่าการรวบรวมพยานหลักฐานที่มีนั้นพอแล้ว แต่ข้อหาอื่นเป็นความผิดเล็กน้อยมันเปลี่ยนได้ จากข้อมูลที่ทราบแล้ว คนในเรือทั้ง 5 ต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ประเด็นสำคัญที่นายสันธนะระบุก็คือ คดีนี้มีคนระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งประจักษ์พยานบางคนที่ลำบากใจ แต่บอกแล้วว่าถ้าต้องไป ต้องไปทั้งลำ กลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดที่คุยกัน บอกว่าคดีนี้สบายมาก สบายจริงๆ คำพูดนี้พูดกับคนใกล้ชิดพวกเขา ไม่ได้บอกผม คดีนี้ผู้ตายอยู่ในสภาวะที่ถูกบีบคั้นกดดันต้องกระโดดน้ำลงไปเพื่อให้พ้นจากเหตุการณ์บางอย่าง เพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ได้ฆ่าตัวตาย หรืออีกประเด็นคือการทำร้าย หรือผลักแตงโมเพื่อประสงค์ต่อชีวิต 

 

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการผลักภาระให้ใครคนหนึ่งบนเรือ นายสันธนะตอบว่า เรื่องนี้แบบนี้เป็นเทคนิคเขาอยู่แล้ว ก็รอดู เราใช้คำว่าแพะไหมก็แล้วแต่ มันก็อาจจะมี เขาไม่สนใจคนปากเสียอย่างผมอยู่แล้ว