ยกระดับเตือนภัยโควิด ปรับมาตรการเข้าประเทศไทย ชง ศบค.ชุดใหญ่เคาะพรุ่งนี้

22 ก.พ. 2565 | 02:23 น.

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เตรียมประชุม ศบค.ชุดใหญ่  พรุ่งนี้  23 ก.พ. เตรียมพิจารณาปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย หลังกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับการเตือนภัยโควิดระดับ 4 

วันนี้ (22 ก.พ. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันพรุ่งนี้(23ก.พ.65) จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ผ่านระบบ Video Conference ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นประธานการประชุม

 

โดยที่ประชุม ศบค. จะมีการพิจารณา การปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย หรือ มาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร แผนการให้บริการวัคซีน โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย  

 

โดยขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยขอความร่วมมือประชาชนงดเข้าสถานที่เสี่ยง  เลี่ยงการรวมกลุ่ม ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด  ดังนั้นหากมีความเสี่ยงขอให้กักตัวเอง โดย มาตรการในการควบคุมโรคยังมีความสำคัญ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรียังยีนยันถึงแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19  ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง สิทธิประกันสังคมและสิทธิ์สวัสดิการข้าราชการ  

 

อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการปอดบวม มีไข้สูง อยู่ในเกณฑ์สีแดงหรือภาวะการเข้าข่าย ฉุกเฉิน ก็ยังสามารถเข้ารักษา ยังหน่วยบริการนอกระบบตามหลักเดิมของ UCEP ที่มีอยู่เดิมได้ แต่หากไม่มีอาการก็เข้ารักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ์  

 

ทั้งนี้ สิทธิการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือ UCEP คือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จนพ้นวิกฤตและสามารถคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง  สำหรับประกาศยกเลิกการกำหนดให้ผู้ "ติดโควิด" เป็น "ผู้ป่วยฉุกเฉิน" หรือ UCEPแล้วให้ไปใช้สิทธิตามหลักประกันสุขภาพของแต่ละบุคคล จะเริ่มในวันที่ 1 มีนาคมนี้

ยกระดับเตือนภัยโควิด ปรับมาตรการเข้าประเทศไทย ชง ศบค.ชุดใหญ่เคาะพรุ่งนี้  

ทั้งนี้  ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ รวม 18,363 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,236 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 127 ราย ผู้ป่วยสะสม 526,126 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 15,651 ราย หายป่วยสะสม 389,302 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 169,074 ราย เสียชีวิต 35 ราย    

 

ล่าสุดการให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 121,989,737 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,180,882 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,497,055 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 17,806,551 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,505,249 โดส

ยกระดับเตือนภัยโควิด ปรับมาตรการเข้าประเทศไทย ชง ศบค.ชุดใหญ่เคาะพรุ่งนี้

อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 10,558 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 29.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 550 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

 

ที่มา : ทำเนียบรัฐบาล