โอมิครอนวันนี้ยึดครองไทย หมอเฉลิมชัยชี้เป็นสายพันธุ์หลักแซงเดลตาแล้ว

11 ม.ค. 2565 | 03:56 น.

โอมิครอนวันนี้ยึดครองไทย หมอเฉลิมชัยชี้เป็นสายพันธุ์หลักแซงเดลตาแล้ว จากการตรวจชนิดสายพันธุ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะติดตามตัวเลขทั้งแบบตรวจ PCR และ ATK

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

 

11 มกราคม 2565 โควิดระลอกใหม่ ติดเชื้อ(PCR) 7133 ราย สะสม 61,174 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย(ATK) 1545 ราย สะสม 17,024 ราย เสียชีวิต 12 ราย สะสม 152 ราย

 

 

สถานการณ์โควิดระลอกใหม่ หรือระลอกที่สี่ ที่เรียกโดยกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ว่า ระลอกมกราคม 2565 ซึ่งเริ่มต้นเมื่อ 1 มกราคม 2565 นั้น

 

 

ในช่วงสัปดาห์แรก มีการเพิ่มของผู้ติดเชื้อในอัตราเร็วที่ใกล้เคียงกับของประเทศต่างๆทั่วโลก โดยมีผู้เสียชีวิตค่อนข้างคงที่

 

 

เมื่อผ่านเข้ามาสู่สัปดาห์ที่ 2 จำนวนผู้ติดเชื้อ(ตรวจด้วย PCR) เริ่มมีการชะลอตัวไม่เพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดด แต่มีการเพิ่มขึ้นของผู้รักษาตัวอยู่ โดยอัตราการเสียชีวิตยังคงตัวเหมือนเดิม

ซึ่งน่าจะเกิดจากในระลอกที่สี่นี้ ไวรัสสายพันธุ์หลักเป็นโอมิครอน ซึ่งติดเชื้อง่ายแต่ไม่ค่อยแสดงอาการ อาจทำให้ผู้ที่สัมผัสเสี่ยงจำนวนหนึ่งไม่ได้ทำการตรวจแบบ PCR แต่หันไปตรวจแบบ ATK ด้วยตนเองที่บ้าน

 

 

จึงทำให้ยอดรายงานผู้ติดเชื้อ (ที่ทำการตรวจด้วย PCR) ไม่ได้สูงมากนัก
แต่ไปปรากฏเป็นยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่าย(ที่ทำการตรวจแบบ ATK) แล้วส่งผลมาถึงจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในระบบที่เพิ่มมากขึ้น

 

สถานการณ์โควิด-19

 

 

 

จึงจำเป็นที่จะต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งที่ตรวจด้วย PCR และตรวจด้วย ATK

 

 

เพราะขณะนี้ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลัก โดยแซงไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการตรวจชนิดสายพันธุ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

วันนี้ 11 มกราคม 2565

 

  • ติดเชื้อเพิ่ม 7133 นาย
  • ติดในระบบ 6632 ราย
  • ติดจากตรวจเชิงรุก 45 ราย
  • ติดในสถานกักตัว 411 ราย
  • ติดในเรือนจำ 45 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 61,174 ราย
  • สะสมทั้งหมด 2,284,609 ราย
  • ติดเชื้อเข้าข่าย(ATK) 1545 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 17,024 ราย
  • รวมติดเชื้อทั้งหมด (PCR+ATK) สะสมระลอกที่สี่ 78,198 ราย
  • รักษาตัวอยู่ในระบบ 61,974 ราย
  • โรงพยาบาลหลัก 34,283 ราย
  • โรงพยาบาลสนาม 23,851 ราย
  • แยกกักที่บ้าน 3000 ราย
  • อาการหนัก 492 ราย
  • ใช้เครื่องช่วยหายใจ 110 ราย
  • เสียชีวิต 12 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 152 ราย
  • สะสมทั้งหมด 21,850 ราย
  • ฉีดวัคซีนสะสม 107 ล้านโดส