เปิดสถิติ โอมิครอน vs เดลตา โควิดสายพันธุ์ไหนระบาดในไทยมากกว่ากัน

24 ธ.ค. 2564 | 22:30 น.

เปิดสถิติ โอมิครอน vs เดลตา ทั่วประเทศสายพันธุ์เดลตา 83.8% โอมิครอน 16.2% เฉพาะในกทม.207 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 25.5% โอมิครอน 43.5%

อัพเดท โอมิครอนสายพันธุ์โควิดที่น่ากังวลอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงาน การตรวจสายพันธุ์โควิด 20-23 ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม จาก 874 ตัวอย่าง

พบว่า ทั่วประเทศเป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา  83.8% โอมิครอน 16.2% เฉพาะในกทม.207 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 25.5% โอมิครอน 43.5%

เปิดสถิติ โอมิครอน vs เดลตา โควิดสายพันธุ์ไหนระบาดในไทยมากกว่ากัน

ขณะที่ภูมิภาค 667 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 92.2% โอมิครอน 7.8%  และถ้าดูเฉพาะกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศจำนวน 221 ตัวอย่าง พบเป็นผู้ติดเชื้อโอมิครอน 52.9% เดลตา 47.1% กลุ่มอื่นๆในประเทศ 653 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 96.2% โอมิครอน 3.8% แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ที่ติดโควิดกว่าครึ่งเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

เปิดสถิติ โอมิครอน vs เดลตา โควิดสายพันธุ์ไหนระบาดในไทยมากกว่ากัน

ซึ่งถือว่ามากกว่าตัวเลขการรายงานเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่เชื่อว่าโอมิครอนในกลุ่มเดินทางเข้าประเทศ มีเพียง 1 ส่วน 4 และจากรายงานประเทศอังกฤษพบว่า ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 50% นอนโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป 61% ขณะที่สายพันธุ์โอมิครอน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 20-25 เปอร์เซ็นต์ นอนโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป 40-45 %

 

สอดคล้องกับการศึกษาของประเทศแอฟริกาใต้ ที่ศึกษาระหว่าง 1 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่าอัตราการนอนโรงพยาบาลของโอมิครอน อยู่ที่ 2.5 % ถือว่าน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่กลับพบว่ากรณีผู้ป่วยอาการหนักมีถึง 21 % หมายความว่าความรุนแรงไม่ต่างกันกับสายพันธุ์อื่น

 

ดังนั้น แม้ ว่าผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์โอมิครอน จะน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่จะสรุปว่าโอมิครอน รุนแรงน้อยกว่าแล้วเราจะสบายใจ ไม่ต้องระมัดระวังมากจะถือเป็นการด่วนสรุปที่ประมาทเกินไป เพราะตามภาพข่าวที่หลายประเทศในยุโรปมีผู้ติดเชื้อเป็นหลักแสน บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก และคนเหล่านี้กลายเป็นผู้สัมผัสเสียงสูงจะทำให้ระบบสาธารณสุขตรึงตัว ในเทศกาลปีใหม่กระทรวงสาธารณสุขโรงพยาบาล ระบบสาธารณสุขทั้งหมดของประเทศเตรียมความพร้อม ศูนย์กักตัวในชุมชน หรือการจัดทีมรองรับการแพร่ระบาดในชุมชน ต้องเตรียมพร้อมไว้

 

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขยังคงจับตาดูอย่างใกล้ชิด ตอนนี้มีการยืนยันประเทศที่มีการแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวไปแล้ว 98 ประเทศ ส่วนที่บางสำนักข่าวรายงานว่าแพร่ระบาดไปเป็นร้อยประเทศแล้วนั้นขอให้ยึดตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก

 

ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน เข้าไปแล้ว205ราย ส่วนใหญ่มาจากผู้เดินทางในระบบเทสต์ แอนด์ โก โดยรายล่าสุดเป็นคู่สามีภรรยา อายุ47 ที่พบที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางมาจากประเทศเบลเยี่ยม ทั้งคู่ตรวจRT-PCR เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมและผลออกมาเป็นลบ เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เมื่อมาถึงก็ตรวจRT-PCR ผลเป็นลบ จึงเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์บ้านเกิด ในวันที่ 11 ธันวาคม

 

จากนั้นวันที่ 12 ธันวาคม มีการรับประทานอาหารกับครอบครัว พบว่าร้านอาหารที่ใช้บริการมีลักษณะเป็นพื้นที่ปิด ทั้งสองคนเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 13 และ15 ธันวาคม ระหว่างนั้นทั้งสองคนมีการเดินทางไปธนาคาร และสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยสารรถตู้ประจำทาง รวมถึงมีการข้ามพื้นที่ไปยังจังหวัดขอนแก่น มีการพบปะผู้คน จนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง วันที่ 15 ธันวาคมมีการตรวจ ATK ซ้ำ นั้นเข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาลวันที่ 17 ธันวาคม ผนยืนยันจากการตรวจRT-PCR

 

ทั้ง 2 คนติดโควิด-19 แล้วยืนยันสายพันธุ์ในวันที่ 21 ธันวาคมว่าเป็นโอมิครอน ทั้งสองคนจากคลัสเตอร์นี้ทำให้มีรายงาน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว 21 คน นอกจากนี้ ยังมีบางจังหวัด ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะติดตามสอบสวนทุกราย และจะนำรายละเอียด มานำเสนอต่อไป