ตายจาก"โอมิครอน" แล้วรายแรกของโลก หมอเฉลิมชัยแนะไทยเตรียม 4 แนวทางรับมือ

14 ธ.ค. 2564 | 01:21 น.

ตายจากโอมิครอนแล้วรายแรกของโลกที่ประเทศอังกฤษ หมอเฉลิมชัยแนะไทยเตรียม 4 แนวทางรับมือ ทั้งเข้มงวดการเดินทางเข้าจากต่างประเทศ ช่องทางธรรรมชาติ พร้อมเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ครบ และกระตุ้นเข็ม 3

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ด่วน !! พบผู้เสียชีวิตจาก Omicron (โอมิครอน) รายแรกที่อังกฤษ นายก Johnson แถลงว่าจะเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ได้วันละ 1 ล้านโดส
หลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้ Omicron เป็นไวรัสกลุ่มน่ากังวล เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564
ความหวั่นใจของชาวโลกเนื่องมาจากข้อมูลที่บอกว่า ไวรัสมีความสามารถในการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดลตา 2-5 เท่า และมีการดื้อต่อวัคซีนเข็ม 2 ของไฟเซอร์ด้วย
ส่วนที่พอจะทำให้เบาใจอยู่บ้างก็คือ ความรุนแรงของผู้ติดเชื้อ Omicron ไม่มากนัก และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย
 

อย่างไรก็ตาม มีข่าวด่วนแจ้งว่า นายกรัฐมนตรี Boris Johnson ของอังกฤษแถลงว่า
เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่อังกฤษได้พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัส Omicron แล้ว
โดยที่อังกฤษมีอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อ Omicron เป็นสองเท่าทุก 2-3 วัน ซึ่งรวดเร็วกว่าไวรัสเดลตามาก
ทำให้ระบบสุขภาพของอังกฤษเริ่มประสบปัญหาเหมือนการระบาดในระลอกที่แล้ว มีการต้องเลื่อนนัดคนไข้ เลื่อนนัดผ่าตัดออกไปเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมเตียงไว้รองรับผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ทางการอังกฤษได้ประกาศนโยบายเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปี  เพื่อเป็นการรับมือกับไวรัส Omicron

พบผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนแล้ว
และได้ร่นระยะเวลาจากการฉีดห่างจากเข็มสอง 6 เดือน เหลือเพียง 3 เดือน
ทั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายเพื่อรับมือกับไวรัส Omicron ที่กำลังระบาดหนักในอังกฤษ โดยจะเร่งฉีดเข็ม 3 ให้ครบตามที่ต้องการภายในเดือนมกราคม 2565
ซึ่งจำเป็นจะต้องฉีดด้วยอัตราเพิ่มเป็นสองเท่าของปัจจุบันคือ ต้องฉีดให้ได้วันละ 1 ล้านโดส
ไวรัส Omicron จึงเป็นเรื่องจริงจังและคุกคามมนุษยชาติ หลังจากที่เดลตาและอัลฟาได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมาแล้ว

ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าความรุนแรงของไวรัส จะส่งผลต่อการเสียชีวิตมากน้อยเพียงใด
แต่มีหลักฐานชัดเจนในวันนี้ว่า ทำให้เสียชีวิตได้
สิ่งที่ประเทศไทยควรเตรียมการเพื่อรองรับได้แก่
1.เข้มงวดคนเดินทางเข้าจากต่างประเทศทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะจากทวีปแอฟริกาเท่านั้น
2.เข้มงวดในช่องทางธรรมชาติต่างๆ ที่จะมีผู้ลักลอบเดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย
3.เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ครบโดยเร็วภายในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งน่าจะทำได้ เพราะขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 97 ล้านโดส

อังกฤษผบผู้เสียชีวิตจากโอมิครอน
4.เร่งฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ให้ผู้ที่ฉีดเข็ม 2 แล้ว ให้ครบถ้วนภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะต้องใช้ความสามารถในการฉีดวันละ 600,000 ถึง 1,000,000 โดส และร่นระยะเวลาจากที่จะฉีดเข็ม 3 ห่างเข็ม 2 ลงมาเหลือ 1-3 เดือน
ก็จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีภูมิคุ้มกัน ที่พอจะรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส Omicron ซึ่งกำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 14 ธันวาคม 2564 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,862 ราย  
ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,146,043 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,818 ราย กำลังรักษา 47,531 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,078,718 ราย