ไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายที่ 2 พนักงานเสิร์ฟใกล้ชิดผลตรวจเป็นลบ

07 ธ.ค. 2564 | 07:29 น.

กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอน ระบุ ไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายที่ 2 พนักงานเสิร์ฟใกล้ชิดผลตรวจเป็นลบ รอตรวจซ้ำ

จับตาโควิดโอไมครอนล่าสุด นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันติดเชื้อโควิด19 โอไมครอน ในประเทศไทยเป็นรายแรกซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง คือ การสอบสวนโรค โดยผู้เสี่ยงสูงทั้งหมด 17 คน

จากการตรวจพบว่ามี 1 ราย มีผลเป็นบวก เป็นเจ้าหน้าที่โรงแรมที่เป็นผู้ส่งอาหารให้กับชายต่างชาติที่ติดเชื้อและดำเนินการสอบสวนโรคพร้อมกับนำผลบวกไปตรวจสอบว่าเป็นเชื้อโอไมครอนหรือไม่

ล่าสุด วันที่ 7 ธ.ค. 2564 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์  ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า สถานการณ์หลังมีการพบการติดเชื้อโอไมครอนรายแรกของไทย โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมด 17 ราย 

จึงมีการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดพบว่า 16 ราย ผลเป็นลบ มี 1 ราย ผลเป็นบวก เป็นชายไทย อายุ 44 ปี พนักงานเสิร์ฟอาหารในโรงแรม  โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. มีการเสิร์ฟอาหารให้ผู้ป่วย และให้เซนเอกสาร แต่ใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่ หลังจากนั้นเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดพร้อมครอบครัวอีก 5 ราย

วันที่  5 ธ.ค. เก็บตัวอย่างหาเชื้อ วันที่ 6 ธ.ค. ทราบข่าวเบื้องต้นสงสัยผลเป็นบวก ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (7 ธ.ค.) ผลเป็นลบ

ไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายที่ 2 พนักงานเสิร์ฟใกล้ชิดผลตรวจเป็นลบ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรก เป็นชายอเมริกัน เดินทางมาจากสเปน นำเข้าสู่ระบบการรักษา และติดตามสอบสวนโรคผู้สัมผัสเพื่อแยกตัวเฝ้าระวังตามระบบการควบคุมโรคแล้ว

 

ส่วนข่าวตรวจพบเชื้อในผู้สัมผัสนั้น ทราบว่าต้องนำตัวอย่างมาปั่นหาเชื้อถึง 36 รอบจึงพบ แสดงว่าเชื้อมีปริมาณน้อยมาก อาจจะเพิ่งติดเชื้อหรือเคยติดเชื้อมาก่อน กำลังรอผลตรวจยืนยันเพิ่มเติมและตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน

ไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายที่ 2 พนักงานเสิร์ฟใกล้ชิดผลตรวจเป็นลบ

"จะช้าหรือเร็วทุกประเทศต้องพบเชื้อโอไมครอน  เนื่องจากคนมีการเดินทาง แต่ไทยมีการเตรียมรับมือ โดยการตรวจคัดกรองเชิงรุกมากขึ้น ขณะเดียวกัน มีการจำกัดการเข้าประเทศไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศงดออกเอกสาร Certificate of Entry และ Fit to Fly ให้กับผู้เดินทางจากประเทศแถบแอฟริกา ทำให้ช่วยจำกัดคนเดินทางได้มาก" นายอนุทินกล่าว