"ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล" ได้รวบรวมเนื้อหาจากบทความเรื่อง" เสียงบีบแตรรถยนต์ไม่ดัง ไม่บีบแตรรถ ผิดกฎหมายไหม เสียค่าปรับเท่าไหร่ ? โดย บมจ.เงินติดล้อ มาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ขับรถบนท้องถนน สำหรับใครที่ไม่เคยรู้มาก่อน อาจมีข้อสงสัยว่ามีกฏหมายเสียงแตรด้วยหรือ โดยเป็นข้อกฎหมายที่ถูกเขียนกำกับไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ได้จำแนกเหตุการณ์ไว้ดังนี้
เสียงบีบแตรรถยนต์ต้องได้ยินภายในกี่เมตร
เสียงบีบแตรตามกฎหมายบีบแตร หรือ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 12 กำหนดเอาไว้ว่า เสียงแตรรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ ต้องได้ยินในระยะที่ไม่น้อยกว่า 60 เมตร ถ้าฝ่าฝืนมีโทษปรับ 200 บาท ซึ่งแปลได้ว่า ถ้าแตรรถยนต์เสีย แตรรถยนต์ไม่ดัง หรือแตรรถยนต์เสื่อมสภาพ แล้วนำรถมาใช้งานถือว่าผิดกฎหมาย
ห้ามแต่งเสียงแตรรถ/อย่าใช้สัญญาณไซเรนแทนเสียงบีบแตร
บางคนต้องการให้เสียงแตรดังกังวานกว่านี้เพื่อเรียกความสนใจ จึงทำการแต่งเสียงแตรใหม่ให้กลายเป็นเสียงสัญญาณไซเรนฉุกเฉิน หรือเสียวหวีหว่อที่ได้ยินกันจนชินหู ซึ่งถ้านำมาใช้งานแน่นอนว่าผิดกฎหมายเสียงบีบแตร หรือ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ตามมาตรา 13 ที่กำหนดไว้ว่า
ห้ามใช้เสียงไซเรน เสียงนกหวีด เสียงที่แตกพร่า หรือเสียงหลายเสียงที่ผสมกัน และมีความดังมากเกินไป มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท เพราะเสียงที่กล่าวไปข้างต้น ใช้ได้เฉพาะกับรถที่เป็นรถในราชการ รถฉุกเฉิน รถพยาบาล หรือรถตำรวจเท่านั้น เพื่อป้องกันการสับสนเวลาเร่งด่วน ต้องใช้เสียงแตรที่มากับรถเท่านั้น
บีบแตรสามช่า บีบแตรเสียงลากยาวๆ ระวังจะโดนค่าปรับ
บีบแตรสามช่า บีบแตรลากเสียงยาวๆ หรือส่งสัญญาณเสียงแตรที่เกินกว่าเหตุจำเป็น ถือว่าผิดกฎหมายการบีบแตร หรือ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ตามมาตรา 14 ที่กำหนดว่า การใช้เสียงสัญญาณควรใช้ในเวลาที่มีเหตุจำเป็นหรือป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น ใช้เสียงซ้ำๆ มากเกินไปไม่ได้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าการบีบแตรส่งสัญญาณเป็นการเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน หรือคนเดินทางเท้าได้รู้ว่าเหตุการณ์ถัดไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่น หากรถชนเสาไฟฟ้า เป็นการเรียกสติให้คนรอบข้างไหวตัวทัน ดังนั้น การบีบแตรสามช่า แม้จะเป็นการบีบแตรรถยนต์เพื่อทักทายเพื่อนร่วมถนน มีโอกาสสร้างความเข้าใจผิดได้
บีบแตรรถยนต์แบบมีมารยาทแบบไหนที่คนไทยคุ้นชิน
แตรรถยนต์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น รถชนรถ รถชนท้าย รถชนไม่มีคู่กรณี เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ใช้รถใช้ถนนและคนเดินทางเท้าได้ไหวตัวทัน กฎหมายการบีบแตรจึงกำหนดว่าต้องดังในระยะที่ไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพราะยังพอจะมีเวลาให้ได้ใช้สัญชาตญาณเอาตัวรอดจากอุบัติเหตุ
แต่ถึงอย่างนั้น การจะไปบีบแตรพร่ำเพรื่อ บีบแตรตามอำเภอใจ อยากบีบแตรรถยนต์เมื่อไหร่ก็บีบ เขาว่ากันว่าไม่มีมารยาท ดังนั้น เพื่อให้การบีบแตรรถยนต์ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่หน้าสิ่วหน้าขวานถูกก่นด่าน้อยที่สุด ต้องมีแตรแบบไหนที่คนไทยถึงจะพอใจ เงินติดล้อ ได้ทำการสืบหาข้อมูลดังนี้
อยากทักทายเพื่อนร่วมทางอย่าบีบแตรสามช่า
จังหวะสามช่าเป็นอะไรที่ได้ฟังแล้วสนุกและครึกครื้น แต่อย่าบีบแตรสามช่าทักทายเพราะชาวบ้านละแวกนั้นจะหนวกหูแล้วได้ก่นด่าสาปแช่งไปตามทาง ถ้าอยากบีบแตรรถทักทายเพื่อนร่วมทางบีบแค่สั้นๆ เบาๆ ก็เป็นอันรู้กันแล้วว่า “สวัสดีเพื่อนร่วมทาง”
อยากเตือนให้ระวัง บีบแตรได้เลยสั้นๆ เบาๆ
การบีบแตรลากยาวอาจทำให้คนรอบข้างตกใจได้ ดังนั้น ถ้าคิดอยากส่งสัญญาณเตือนให้ระวังสามารถบีบแตรได้สั้นๆ เบาๆ เพื่อเป็นการเรียกสติ เช่น อยากเตือนคนที่ข้ามถนนว่าไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว หรือบีบแตรรถยนต์เวลาขับรถในที่แคบแล้วเจอโค้งหักศอกเพื่อบอกว่ารถของคุณกำลังจะไป จะได้ไม่เกิดรถชนกัน
อยากบอกรถคันข้างหน้าว่าไฟเขียวแล้วบีบแตรรถแบบไหน
เพราะไฟแดงมีเวลายาวนานกว่าไฟเขียวมาก บางทีรถติดอยู่ 5 แยกกว่าจะถึงคิวเราก็รอไปเกือบ 10 นาที ไฟเขียวมาทั้งทีก็ไม่อยากพลาดโอกาส แต่ในเมื่อรถคันหน้ายังไม่ขยับสักที การบีบแตรยาวๆ 1 ครั้งถ้วน เพื่อให้รถคันข้างหน้ารู้ว่าไฟแดงนั้นเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้วถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากขับรถฝ่าไฟแดง แล้วโดนใบสั่งจราจรหรอกครับ
เจอเหตุฉุกเฉินหรือเหตุไม่คาดฝันบีบแตรยาวๆ ดังๆ ได้เลย!
การบีบแตรดังๆ ยาวๆ ที่มีความถี่เกิน 4 ครั้งต่อวินาที แน่นอนว่าโดนด่าอยู่แล้ว แต่เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแล้วต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องบีบแตรส่งสัญญาณอยู่ดี เช่น คุณจอดรถไว้หลังตึกแล้วโดนจี้รถยนต์ การอยู่ในรถแล้วบีบแตรดังๆ ยาวๆ อย่างน้อยก็เรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้บ้าง
สรุป
หากแตรรถยนต์ไม่มีเสียงดังควรซ่อมให้ใช้งานได้ เพราะกฎหมายระบุเอาไว้ว่าเสียงแตรรถยนต์ต้องได้ยินในระยะที่ไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุขึ้น และทางที่ดีไม่ควรเปลี่ยนเสียงแตร ควรใช้เสียงแตรเดิมที่มากับรถยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้รถคันอื่นๆ สับสน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตามกฎหมายนะครับ!
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522