วันที่ 19 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผลหรือ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวก รวม 7 คน ผู้ต้องหาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญาทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ทั้ง 7 ถูกคุมตัวมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อนัดไต่สวนคดีนี้เป็นนัดแรก
กรณีร่วมกับพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ในฐานความผิด 4 ข้อหา
1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,288,289(5),309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4,172
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีต ผกก.โจ้ ให้การรับสารภาพทั้งหมด 3 ข้อหาต่อชั้นศาล ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติฯ และรับสารภาพในฐานร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่น
ปฏิเสธในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย โดยให้เหตุผลว่า ตนเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่า เเค่ต้องการขยายผลเพื่อจับกุมยาเสพติด ยืนยันไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้ตาย
ส่วนจำเลยที่เหลือให้การรับและปฏิเสธข้อหาแตกต่างกันไป อ้างว่าทำไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่มีเจตนาประสงค์ต่อชีวิต