สตช.ส่งฟ้อง 4 ข้อหา-อายัด 131 ล้าน ตำรวจแก๊ง“อดีตผกก.โจ้”พรุ่งนี้

02 พ.ย. 2564 | 10:55 น.

ผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าคดี “อดีตผกก.โจ้” ส่งสำนวนฟ้อง 4 ข้อหา “ร่วมกันละเว้น-ใช้อำนาจมิชอบ-ร่วมกันกักขัง-ฆ่า” แก๊งปราบปรามยาเสพติด นครสวรรค์ ให้อัยการพรุ่งนี้ พร้อมประสานปปง.อายัดทรัพย์ 131 ล้าน

 

ความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตำรวจนครสวรรค์ หรือ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวกในแก๊งตำรวจ ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองจ.นครสวรรค์ ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยอ้างเป็นการกระทำเพื่อเค้นข้อมูลสืบสวนแต่พลั้งมือ เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อ 5 สิงหาคม 2564

 

วันนี้(2 พ.ย.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าว่า คดีนี้ตำรวจสรุปสำนวน และจะส่งสำนวนสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คน ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ในช่วงบ่ายวันที่ 3 พ.ย.64 นี้

 

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีนี้ มี น.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ แม่ของนายมาวิน และ พ.ต.อ. สุทธินันท์ คงแช่มดี พนักงานสอบสวน เป็นผู้กล่าวหา มีผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล 2. พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง 3. ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค 4. ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา 5. ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว 6. ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น 7. ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว คดีนี้ สอบสวนพยาน 35 ปาก พยานเอกสารจำนวน 14 รายการ วัตถุพยานจำนวน 7 รายการ

 

คณะพนักงานสอบสวนลงความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ฐานความผิด

 

1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

 

2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือ หน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

 

3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

 

4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

 

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า สำหรับคดีรถหรูของอดีตผกก.โจ้ ที่จับกุมเป็นรถเถื่อน ส่งศุลกากร จำนวนกว่า 400 คันนั้น สำนวนคดีมีคืบหน้า 80% แล้ว พบพิรุธทั้งการจับกุมรถที่ไม่มีที่มาที่ไป พิรุธเรื่องการรับสินบนนำจับ ขณะนี้กำลังขยายผล คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของอดีตผกก.โจ้

 

ในคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตำรวจและปปง.ได้อายัดทรัพย์ของ อดีตผกก.โจ้ ที่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งคฤหาสน์ ย่านบางชัน มูลค่า 57 ล้านบาท รถ 24 คัน ประเมินราคา 70 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1 ยูนิต 1.5 ล้านบาท ปืน 18 กระบอก 720,000 บาท รวม 131 ล้านบาท ขณะที่อดีตผกก.โจ้ มีหนี้สิน 76.63 ล้านบาท ทำให้เหลือทรัพย์สิน ประมาณ 53.4 ล้านบาท ส่วนจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินหรือไม่ ต้องพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่

 

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนนี้ยังต้องรอการตรวจสอบเอกสารร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งกรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก อีกระยะหนึ่ง แต่ยอมรับว่า ช่วงหลัง อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ทำให้การตรวจสอบทรัพย์สิน ทำได้อย่างล่าช้า จึงต้องมีการหารือร่วมกับกรมราชทัณฑ์เพิ่มเติม

 

ด้าน ผบ.ตร.เผยถึงการพิจารณาลงโทษทางวินัยอดีตผกก.โจ้และพวก ว่า ในการพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงว่าจะปลดออก หรือ ไล่ออก นั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา