มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

31 ต.ค. 2564 | 06:30 น.

ตรวจสอบ ประกาศ-คำสั่งศบค.ล่าสุด ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา มาตรการคลายล็อกดาวน์ และประกาศเคอร์ฟิวรอบล่าสุด ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป มีอะไรบ้าง อ่านรายละเอียดให้ที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดมาตรการคลายล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวล่าสุด ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม เพื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นั้น

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถือเป็นความท้าทายและเป็นบทพิสูจน์ครั้งสําคัญที่ประเทศไทยได้ข้ามผ่าน อุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยอาศัยการประสานความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่ร่วมดําเนินการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ได้กําหนดไว้ ประกอบกับอัตราผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคที่เพิ่มจํานวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง และผู้เสียชีวิตมีจํานวนลดลงอย่างมีนัยสําคัญ 

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

เหตุดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยส่งผลต่อภาพรวมของสถานการณ์ การระบาดในประเทศไทยที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุข จึงเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดจําแนกตามระดับพื้นที่สถานการณ์ รวมทั้งปรับเกณฑ์ การพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นและรองรับแผนการเปิดประเทศเพื่อรับ นักท่องเที่ยว ข้อกําหนดฉบับนี้จึงเป็นการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค และรวบรวมบรรดามาตรการควบคุมแบบบูรณาการต่าง ๆ ที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกําหนดฉบับก่อนหน้า โดยจําแนกออกเป็นพื้นที่สถานการณ์ที่แตกต่างลดหลั่นกันตามความรุนแรงของการระบาดของโรค 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเน้นย้ําถึงเจตนารมณ์ที่จะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่ได้กําหนดไว้ ให้ดําเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้การดําเนินกิจการและกิจกรรมของบุคคลและสถานที่ต่าง ๆ อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรค เพื่อรักษาสมดุลด้านความมั่นคง ทางสาธารณสุขกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนให้ใกล้เคียง กับภาวะปกติ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกําหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคําแนะนําของศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ดังต่อไปนี้

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข้อ ๑

การปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ ให้ ศบค. มีคําสั่งปรับปรุง เขตพื้นที่จังหวัดจําแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคําสั่ง เพื่อให้ สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยให้นํามาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่กําหนดไว้สําหรับพื้นที่สถานการณ์ระดับต่าง ๆ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ได้ประกาศไว้แล้วก่อนหน้านี้ มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกําหนดนี้

สําหรับจังหวัดที่ได้ปรับระดับเขตพื้นที่สถานการณ์ขึ้นใหม่ตามคําสั่งที่ออกตามข้อกําหนดนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมการด้านบุคลากร สถานที่ และ ประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเพื่อการดําเนินการตามมาตรการ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติต่าง ๆ เป็นการล่วงหน้า

สําหรับพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวจะเป็นไปตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคําสั่งศูนย์ บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๑๘/๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข้อ ๒

ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร์โรค ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกัน ของบุคคลเพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัสกันที่สามารถแพร่โรคได้ เว้นแต่เป็นกรณีได้รับอนุญาต จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ที่จะพิจารณาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จัดกิจกรรมและสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยกําหนด ปรับปรุงเฉพาะเรื่องจํานวนบุคคลที่เข้ารวมกลุ่มเพื่อทํากิจกรรมจําแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้

  • พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคล ที่มีจํานวนรวมกันมากกว่า 50 คน
  • พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนรวมกัน มากกว่า  200 คน
  • พื้นที่ควบคุม ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนรวมกันมากกว่า 500 คน
  • พื้นที่เฝ้าระวังสูง ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนรวมกัน มากกว่า 1,000 คน
  • พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคล ที่มีจํานวนมากให้สามารถทําได้ตามความเหมาะสมโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทํากิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทําการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในเขตพื้นที่ที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงประกาศกําหนด โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) พิจารณามาตรการที่จําเป็นและเหมาะสมของสถานการณ์ ในแต่ละพื้นที่เพื่อการเข้าระงับยับยั้ง การตรวจสอบ การยุติการชุมนุมหรือการทํากิจกรรมหรือการมั่วสุม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพื่อป้องกันการติดเชื้อทั้งต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมและประชาชนอื่นทั่วไป โดยให้เร่งรัดการปฏิบัติตามหน้าที่และอํานาจอย่างเข้มข้นเพื่อเกิดผลสัมฤทธิ์ ที่รวดเร็ว

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข้อ ๓

กิจกรรมการรวมกลุ่มของบุคคลที่ได้รับยกเว้น กิจกรรมหรือการรวมกลุ่มของบุคคล ดังต่อไปนี้สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๒ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด

  1. กิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งหรือขนย้ายประชาชน ได้แก่ การขนส่งประชาชน เพื่อเดินทางไปหรือออกจากที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ศูนย์พักคอยรอการส่งตัว หรือสถานที่เพื่อการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในชั้นแรก
  2. กิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและการสาธารณสุข
  3. กิจกรรมเกี่ยวกับการให้บริการ การให้ความช่วยเหลือหรืออํานวยประโยชน์หรือความสะดวก แก่ประชาชน
  4. การรวมกลุ่มของบุคคลตามปกติในที่พักอาศัย สถานที่ทํางาน การประชุม หรือ การออกกําลังกายในสถานที่ตามที่ทางราชการกําหนด
  5. กิจกรรมที่ดําเนินโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่จัดโดยองค์กรหรือหน่วยงาน ของรัฐโดยความเห็นชอบของหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าว หรือกิจกรรมอื่นตามที่ ศปม. กําหนด พนักงานเจ้าหน้าที่อาจเข้าไปกํากับตรวจสอบหรือให้คําแนะนําการดําเนินกิจกรรมรวมกลุ่ม ของบุคคลได้ และหากพบว่าการจัดหรือการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอํานาจตักเตือนหรือแนะนําเพื่อให้แก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจสั่งให้ยุติ การดําเนินกิจกรรมนั้นได้

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข้อ ๔

การห้ามออกนอกเคหสถานสําหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามบุคคลใด ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยใช้บังคับต่อเนื่องไปสําหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทุกจังหวัด เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน (จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564) และให้การกําหนด เงื่อนไขการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่และกรณีของบุคคลที่ได้รับยกเว้นที่ได้ประกาศหรือ ได้อนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ยังคงใช้บังคับต่อไป

 

ข้อ ๕

การปฏิบัติงานนอกสถานที่ สําหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ทํางานของหน่วยงาน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้หัวหน้า ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาดําเนิน มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งอย่างเต็มความสามารถที่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติได้ โดยการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องไม่กระทบกับภารกิจเพื่อการให้บริการประชาชน โดยให้ ศปก.ศบค. หารือร่วมกับสํานักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกําหนดแนวทางการปฏิบัติงานของข้าราชการ พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะการปฏิบัติงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และสภาพสถานการณ์ด้วย

สําหรับหน่วยงานในพื้นควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ให้หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาดําเนินมาตรการ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ทํางานของหน่วยงานที่ต้องให้บริการแก่ประชาชนโดยตรง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค การรักษาความปลอดภัย การรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ งานที่มีกําหนดเวลาปฏิบัติชัดเจนและได้นัดหมายไว้แล้วล่วงหน้า ทั้งสามารถจัดมาตรการป้องกันโรคได้ เช่น การรักษาพยาบาล การติดต่อกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ให้พิจารณาดําเนินการ ตามความจําเป็นและเหมาะสม

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข้อ ๖

มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจําแนกตามพื้นที่สถานการณ์ ให้คณะกรรมการ โรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี กํากับดูแลและติดตาม การดําเนินการของสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมในพื้นที่สถานการณ์ที่ได้ปรับมาตรการตามข้อกําหนดนี้ เพื่อให้เปิดดําเนินการได้ โดยให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจัดเตรียมสถานที่ ให้เป็นไป ตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กร (COVID-Free Setting) ตามประเภทของกิจการกิจกรรม ตามระดับความเสี่ยงที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด จัดระบบหมุนเวียนระบายอากาศกํากับดูแลความพร้อม ของบุคลากรผู้ให้บริการ และปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการ ป้องกันโรคต่าง ๆ ตามที่ทางราชการกําหนด รวมทั้งมาตรการที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกําหนดขึ้น เป็นการเฉพาะดังต่อไปนี้

 

(๑) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ก. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท รวมถึงสถาบันกวดวิชา

  • ให้สามารถ ใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมากได้ โดยให้ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับคณะกรรมการ โรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาความจําเป็นและ การดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด รวมทั้งความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และ สถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ และให้มีมาตรการกํากับดูแลการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ที่เคร่งครัดและรัดกุม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุขกําหนด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ข. สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานที่ให้การดูแล หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่เป็นการจัดสวัสดิการให้แก่เด็ก

  • ให้เปิดดําเนินการได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาอนุญาตการใช้สถานที่ตามความเหมาะสมของสถานที่นั้น ๆ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนดอย่างเคร่งครัด

ค. ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

  • สามารถเปิดให้บริการในลักษณะของการดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไป เย็นกลับได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม โดยกําหนดเงื่อนไขที่ผู้รับบริการและบุคลากร เจ้าหน้าที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกําหนด และให้ผู้ประกอบการสุ่มตรวจ บุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์โดยอาจเป็นการใช้ชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (ชุดตรวจ ATK) เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 หรือโดยวิธีการที่ทางราชการกําหนด

ง. ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ทุกประเภท บ้านหนังสือ หอศิลป์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดดําเนินการได้และจํากัดจํานวน ผู้ใช้บริการ โดยอาจพิจารณาตามเกณฑ์ของขนาดพื้นที่ตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด หรือไม่เกินร้อยละ 75 ของจํานวนผู้เข้าใช้บริการที่สามารถรองรับได้ตามปกติ และให้ผู้ใช้บริการ งดบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มขณะเข้าชมหรือใช้บริการ รวมทั้งงดการทํากิจกรรมที่อาจทําให้เกิด ความแออัด โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

จ. ร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม

  • สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านไม่เกินเวลา 22.00 น. โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และ จํากัดจํานวนผู้นั่งบริโภคในร้าน หากเป็นการบริโภคในห้องปรับอากาศให้มีจํานวนผู้นั่งบริโภคไม่เกิน ร้อยละ 50 ของจํานวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีจํานวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 ของจํานวนที่นั่งปกติ
  • การแสดงดนตรีในร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถทําได้โดยมีผู้แสดงไม่เกิน จํานวน 5คน ต้องมีการเว้นระยะห่างและงดการติดต่อสัมผัสกับผู้ใช้บริการ และให้นักดนตรี สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา โดยอนุโลมให้เฉพาะนักร้องและนักดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรี ประเภทเป๋าที่อาจถอดหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าได้ขณะทําการแสดง
  • มาตรการนี้ให้ใช้บังคับกับร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

 

ฉ. ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดสด หรือตลาดนัด

  • สามารถเปิดเพื่อการ จําหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทตามเวลาปกติจนถึงเวลา 22.00 น. และหากมีการเปิดให้บริการ เครื่องเล่น ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี ประเมินและพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม
  • สําหรับร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการ ในช่วงเวลา กลางคืน ให้ปิดการให้บริการในช่วงระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 03.00น. ของวันรุ่งขึ้น

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ช. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการเพื่อการจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุมได้จนถึงเวลา 22.00 น. โดยยังคงให้จํากัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และปิดให้บริการในส่วนที่เป็นร้านเกม ตู้เกม เครื่องเล่น สวนสนุก และสวนน้ํา

 

ซ. โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือสถานที่ ที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการเพื่อการจัดประชุม สัมมนา การจัดงานพิธีตามประเพณีนิยมได้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กรที่กําหนด เช่น การจํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน ๕๐๐ คน การให้ผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา การจัดให้มีช่วงเวลาพัก เพื่อการระบายอากาศของห้องประชุม การจัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด การเว้นระยะห่างไม่ให้แออัด รวมทั้งดําเนินการตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและ นิทรรศการ (องค์การมหาชน) กําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ฌ. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือ ตัดผม ร้านทําเล็บ และร้านสัก

  • สามารถเปิดดําเนินการและให้บริการผ่านการนัดหมายได้จนถึงเวลา 22.00 น. โดยกําหนดเงื่อนไขสําหรับร้านสักที่จะให้บริการได้เฉพาะผู้รับบริการที่แสดงหลักฐานว่า ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกําหนด หรือมีหลักฐานแสดงผลการตรวจที่ยืนยันว่าไม่มี เชื้อโรคโควิด - 19 ในระยะเวลา 72 ชั่วโมงก่อนการใช้บริการโดยวิธี RT- PCR หรือโดยชุดตรวจ และน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหา แอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen test self-test Kits : ATK) (ชุดตรวจ ATK)

 

ญ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย

  • สามารถ เปิดดําเนินการและให้บริการผ่านการนัดหมายได้ โดยจํากัดเวลาการให้บริการไม่เกินรายละ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 22.00 น. และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด อย่างเคร่งครัด ยกเว้นการอบตัว อบสมุนไพร และการอบไอน้ํา ที่ยังไม่อนุญาตให้ดําเนินการ โดยกําหนดเงื่อนไขเฉพาะการให้บริการประเภทการใช้น้ําเพื่อสุขภาพในกิจการสปา ที่ผู้เข้ารับบริการต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกําหนด หรือมีหลักฐาน แสดงผลการตรวจที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 ในระยะเวลา 72 ชั่วโมงก่อนการใช้บริการโดยวิธี RT- PCR หรือโดยการใช้ชุดตรวจ ATK

 

ฎ. สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ําเพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ํา เพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ําสาธารณะ

  • สถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ ในพื้นที่โล่ง สถานกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี ให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. โดยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี สามารถพิจารณากําหนดหลักเกณฑ์การใช้สถานที่เป็นการเฉพาะ เพื่อความเหมาะสมกับสถานที่นั้น ๆ ได้
  • สําหรับสถานที่ออกกําลังกาย ยืมหรือฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. และงดเว้นการให้บริการอบตัวหรืออบไอน้ํา โดยคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาอนุญาตการใช้สถานที่ ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ฏ. การใช้สถานที่หรือสนามกีฬาเพื่อการจัดแข่งขันกีฬา

  • ให้คณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬาและกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาความเหมาะสม
  • โดยกรณีประเภทกีฬาในร่ม สามารถจัดการ แข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม หากเป็นการจัดแข่งขันประเภทกีฬากลางแจ้ง สามารถจัดการแข่งขันได้ โดยให้มีผู้ชมในสนามไม่เกินร้อยละ 25 ของความจุสนาม และต้องดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด
  • สําหรับการใช้สถานที่หรือสนามกีฬาเพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติ ให้กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งต่อคณะกรรมการ โรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ แล้วแต่กรณี เพื่อเข้าใช้สถานที่ได้ โดยไม่มีผู้ชมในสนาม แต่ต้องดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการ กําหนดอย่างเคร่งครัด

 

ฐ. โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ หรือโรงละคร

  • สามารถเปิดดําเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.000 น. โดยโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ หรือโรงละครที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้จํากัดจํานวน ผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของจํานวนความจุที่นั่ง
  • แต่หากเป็นโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ หรือ โรงละครในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี ให้จํากัดจํานวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุที่นั่ง ทั้งนี้ ให้จัดที่นั่งให้มีการเว้นระยะห่างโดยการเว้นที่นั่งตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกําหนด โดยให้ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและ งดการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในระหว่างการเข้าใช้บริการ
  • สําหรับโรงมหรสพหรือโรงละคร ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาความเหมาะสมให้มีการจัดแสดงดนตรี การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน หรือการแสดงอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันได้ โดยจํากัดจํานวน ผู้แสดงและเจ้าหน้าที่ไม่เกิน 50 คน และให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา อนุโลมให้ขณะแสดงบนเวทีที่อาจถอดหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าได้ โดยงดการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคลและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

(๒) พื้นที่ควบคุมสูงสุด
 

ก. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท

  • ให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการ จัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม เป็นจํานวนมากได้ โดยพิจารณาความจําเป็นและการดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคําแนะนําของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี กําหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา อนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จัดกิจกรรมและสถานการณ์ในพื้นที่ รับผิดชอบ

 

ข. ร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม

  • สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านไม่เกินเวลา 23.00 น.
  • โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
  • โดยมาตรการนี้ให้ใช้บังคับกับร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

 

ค. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ โดยยังคงให้จํากัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และปิดให้บริการในส่วนที่เป็นสวนสนุก และสวนน้ํา

 

ง. โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือสถานที่ ที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการเพื่อการจัดประชุม สัมมนา การจัดงานพิธีตามประเพณีนิยม มหกรรมด้านกีฬา หรือการจัดแสดงสินค้า (งดเว้นกิจกรรมเชิญชวนบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม) ได้
  • โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กรที่กําหนด เช่น การจํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 500 คน การให้ผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา การเว้นระยะห่าง ไม่ให้แออัด รวมทั้งดําเนินการตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสํานักงานส่งเสริม การจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

จ. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือ ตัดผม ร้านทําเล็บ และร้านสัก

  • สามารถเปิดดําเนินการได้ไม่เกินเวลา23.00น. 

 

ฉ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย

  • สามารถเปิดดําเนินการและให้บริการได้จนถึงเวลา 23.00 น. และต้องปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนดอย่างเคร่งครัด

 

ช. สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ําเพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ํา เพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ําสาธารณะ

  • สถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ ในพื้นที่โล่ง สถานกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี ให้เปิดได้ ไม่เกินเวลา 23.00 น. โดยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี สามารถพิจารณากําหนดหลักเกณฑ์การใช้สถานที่เป็นการเฉพาะ เพื่อความเหมาะสมกับสถานที่นั้น ๆ ได้
  • สถานที่ออกกําลังกาย ยืมหรือฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุขกําหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ซ. การใช้สถานที่หรือสนามกีฬาเพื่อการจัดแข่งขันกีฬา

  • ให้แจ้งให้คณะกรรมการ โรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อทราบ โดยกรณี ประเภทกีฬาในร่ม สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มีผู้ชมในสนามไม่เกินร้อยละ 25 ของความจุสนาม
  • หากเป็นการจัดแข่งขันประเภทกีฬากลางแจ้ง สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มีผู้ชมในสนาม ไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุสนาม และต้องดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด อย่างเคร่งครัด

 

ฌ. โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ โรงละคร

  • สามารถเปิดดําเนินการได้ตามเวลาปกติ โดยโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ หรือโรงละครที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้จํากัดจํานวนผู้ใช้บริการไม่เกิน ร้อยละ 75 ของจํานวนความจุที่นั่ง แต่หากเป็นโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ หรือโรงละครในพื้นที่เปิด ที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี ให้พิจารณาจํากัดจํานวนผู้ใช้บริการตามความเหมาะสมของ ขนาดพื้นที่ 
  • ทั้งนี้ ให้จัดที่นั่งให้มีการเว้นระยะห่างโดยการเว้นที่นั่งตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกําหนด โดยให้ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในระหว่าง การชมภาพยนตร์ มหรสพ การแสดงดนตรี การแสดงทางวัฒนธรรม หรือการแสดงพื้นบ้าน

 

พื้นที่ควบคุม

ก. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท

  • ให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัด การเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ได้ตามความเหมาะสมและความพร้อม โดยรูปแบบของการดําเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ คําแนะนําของ ทางราชการ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด ภายใต้การกํากับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ข. ร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม

  • สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านตามเวลาปกติ
  • โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
  • โดยมาตรการนี้ ให้ใช้บังคับกับร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

มาตรการคลายล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวล่าสุด เริ่ม1พ.ย.64 อ่านรายละเอียดที่นี่

ค. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ โดยยังคงให้ปิดให้บริการในส่วนที่เป็น สวนสนุกหรือสวนน้ําที่เป็นห้องปรับอากาศหรือพื้นที่ปิด

 

ง. โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือสถานที่ที่มี ลักษณะคล้ายกัน

  • สามารถเปิดให้บริการได้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กรที่กําหนด เช่น การจํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 1,000 คน การให้ผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากผ้าตลอดเวลา การเว้นระยะห่างไม่ให้แออัด รวมทั้งดําเนินการตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กําหนดอย่างเคร่งครัด

 

จ. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือ ตัดผม ร้านทําเล็บ ร้านสัก สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย

  • สามารถเปิดดําเนินการได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. 

 

ฉ. สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ําเพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ํา เพื่อการสันทนาการ

  • สระว่ายน้ําสาธารณะ สถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ ในพื้นที่โล่ง สถานกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี รวมถึง สถานที่ออกกําลังกาย ยิมหรือฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้เปิดบริการได้ตามปกติ
  • ทั้งนี้ การใช้ สถานที่หรือสนามกีฬาเพื่อการจัดแข่งขันกีฬา กรณีประเภทกีฬาในร่ม สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มี ผู้ชมในสนามไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุสนาม
  • หากเป็นการจัดแข่งขันประเภทกีฬากลางแจ้ง สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มีผู้ชมในสนามไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุสนาม และต้องดําเนินการ ตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด

 

(๔) พื้นที่เฝ้าระวังสูง

ก. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท

  • สามารถเปิดดําเนินการได้ โดยปฏิบัติ ตามเงื่อนไขที่กําหนดใน (๓) ก.

 

ข. สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ําเพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ํา เพื่อการสันทนาการ

  • สระว่ายน้ําสาธารณะ สถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ ในพื้นที่โล่ง สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกําลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี รวมถึง สถานที่ออกกําลังกาย ยิมหรือฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ ให้เปิดบริการได้ตามปกติ
  • ทั้งนี้ การใช้ สถานที่หรือสนามกีฬาเพื่อการจัดแข่งขันกีฬา กรณีประเภทกีฬาในร่ม สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มี ผู้ชมในสนามไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุสนาม
  • หากเป็นการจัดแข่งขันประเภทกีฬากลางแจ้ง สามารถจัดการแข่งขันได้โดยให้มีผู้ชมในสนามตามความจุสนาม และต้องดําเนินการตามมาตรการ ป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด

 

(๕) พื้นที่เฝ้าระวัง 

  • ให้การเปิดดําเนินการของสถานที่ กิจการ และกิจกรรม ในเขตพื้นที่ เฝ้าระวัง สามารถเปิดดําเนินการและให้บริการได้เมื่อมีความพร้อมโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ คําแนะนําของทางราชการ รวมทั้งกฎหมาย กฎหรือระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อ ๗

การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในเขตพื้นที่จังหวัดและการกําหนด มาตรการเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี เสนอต่อ ศปก.ศบค. เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง และเสนอ
นายกรัฐมนตรีให้พิจารณาปรับระดับความเข้มข้นหรือการผ่อนคลายของพื้นที่สถานการณ์ย่อย ในระดับท้องที่หรือเขตอําเภอที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดในความรับผิดชอบของตนได้ตามความจําเป็น แห่งสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ในห้วงเวลาต่าง ๆ

ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถพิจารณาดําเนินการ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในการสั่งปิด จํากัด หรือห้ามการดําเนินการของสถานที่ กิจการ หรือสั่งให้งดการทํากิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่รับผิดชอบเป็นการเพิ่มเติมนอกเหนือจากมาตรการ ควบคุมแบบบูรณาการที่ส่วนกลางกําหนดได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด - 19 เพื่อให้การบริหารจัดการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สําคัญของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

จึงกําหนดให้ ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด - 19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รับผิดชอบกํากับดูแล การดําเนินการตามมาตรการ รวมทั้งให้มีอํานาจพิจารณากําหนดระดับความเข้มข้นหรือผ่อนคลาย ของมาตรการในพื้นที่รับผิดชอบได้ตามความเหมาะสมและความจําเป็นแห่งสถานการณ์ รวมทั้ง สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวและการกําหนดเป็นพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว

 

ข้อ ๘  

มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว สําหรับพื้นที่ ที่ประกาศเป็นพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว ให้ดําเนินการตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพื่อการ เปิดสถานที่ กิจการ และกิจกรรมสําหรับพื้นที่สถานการณ์ที่จําแนกเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวัง และ ตามมาตรการและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ตามที่ได้กําหนดไว้ในข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๔ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๓๖) ลงวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๔ แห่งข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๖) ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่กําหนดจํานวนบุคคลที่เข้ารวมกลุ่ม โดยกําหนดให้การจัดกิจกรรม รวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนมากในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวสามารถทําได้ตามความเหมาะสม โดยปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด

 

ข้อ ๙

การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ทั่วราชอาณาจักร สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วราชอาณาจักรยังคงมีความจําเป็นให้ปิดดําเนินการไว้ก่อน โดยให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดําเนินการ เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมสําหรับการผ่อนคลายการเปิดสถานประกอบกิจการได้ตามแผนและ กรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกําหนดต่อไปได้อย่างปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขและการกํากับดูแล การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนด

ทั้งนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้ในข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๓๕) ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๔ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๓๖) ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
 

ที่มา

ราชกิจจานุเบกษาที่เกี่ยวข้อง