ตำรวจเตือน“ฟ้าทะลายโจรปลอม”ระบาด ผู้ขายมีโทษฉ้อโกง-ผิดพรบ.คอมพ์ 

01 ส.ค. 2564 | 06:18 น.

รองโฆษก สตช.เตือนประชาชนระวังซื้อ “ฟ้าทะลายโจรปลอม” แนะให้ตรวจสอบหน่วยงานเกี่ยวข้องจากเว็บไซต์ อย.-ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม หากขายผ่านออนไลน์ มีความผิดฐานฉ้อโกง-พรบ.คอมพ์-พรบ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 

วันที่ 1 สิงหาคม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  หลังจากที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความต้องการยา “ฟ้าทะลายโจร” ในท้องตลาดสูง จึงมีมิจฉาชีพ หรือ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลอม ฉวยโอกาสโดยการโฆษณาขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอม หรือใช้หมายเลข อย.ปลอม หรือ โฆษณาแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง ทำให้เข้าใจผิดในสรรพคุณ หรือ ทำให้เข้าใจว่ามีวัตถุใดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งความจริงไม่มีวัตถุ หรือส่วนประกอบน้ัน ในผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือมีแต่มีไม่เท่าที่ทำให้เข้าใจตามที่โฆษณา ฯลฯ 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ เพื่อเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร โดยให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
เช่น การอนุญาตผลิตภัณฑ์ จากเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา www.fda.moph.go.th หรือ Oryor Smart Application และตรวจสอบข้อมูลจาก เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย www.antifakenewscenter.com 

 

สำหรับผู้ที่กระทำความผิดในการขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอมหรือโฆษณาขายในลักษณะผิดกฎหมายในสื่อสังคมออนไลน์ จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

 

อกจากนี้ยังมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ตามแต่พฤติการณ์ที่ได้กระทำ เช่น มาตรา 58 (1)ผลิต หรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมฯ ประกอบมาตรา 102 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาทบาท

 

มาตรา 70 โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯและ มาตรา 74โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะผิดกฎหมายฯ ประกอบมาตรา 114 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป