"นิสสัย เวชชาชีวะ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ถึงแก่อนิจกรรม

13 ก.พ. 2564 | 14:54 น.

นิสสัย เวชชาชีวะ อดีตเอกอัครราชทูตไทย บิดานายสุรนันท์ เวชชาชีวะ  ถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย 89 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิสสัย  เวชชาชีวะ อดีตเอกอัครราชทูตไทยหลายประเทศ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สมัยรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์  บิดาของนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ได้ถึงแก่อนิจกรรมเช้านี้ (13 กุมภาพันธ์ 2564) รวมอายุ 89 ปี

โดยกำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรม ณ ศาลาพระครูประจักษ์ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

16:00 พิธีรดน้ำศพ

17:00 พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

18:30 สวดพระอภิธรรม

วันจันทร์ที่ 15 ถึงวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564

18:30  สวดพระอภิธรรม

สำหรับนายนิสสัย เวชชาชีวะ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475 เป็นบุตรของนายโฆสิต เวชชาชีวะ น้องชายของพระบำราศนราดูร (หลง เวชชาชีวะ) อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นพี่ชายของนายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี

นิสสัย  เวชชาชีวะ

ด้านการศึกษา นายนิสสัย เวชชาชีวะ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา จนสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบอสตัน และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 17

ด้านการทำงาน นายนิสสัย เวชชาชีวะ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตกรรมการอิสระ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้ากองการหนังสือพิมพ์ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้อำนวยการสนธิสัญญาการป้องกันร่วมกันแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(SEATO) กรมองค์การระหว่างประเทศ   เป็นเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ดำรงตำแหน่งสุดท้ายคือ เอกอัครราชทูต ณ กรุงสต็อกโฮล์ม โดยลาออกจากราชการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เศร้า "กมล เชียงวงค์" ผู้ว่าฯ พะเยา ถึงแก่อนิจกรรม ในวัย 59 ปี

ข่าวดี สมุทรสาครติดเชื้อโควิด ลดต่อเนื่อง

ตะลึง!ลาวถังแตก จ่อเบี้ยวหนี้ค่าไฟฟ้า

ชาวศรีสะเกษเฮ "พริ้นซ์ ศรีสะเกษ" ดีเดย์เปิด เม.ย.นี้ 

“ปารีณา”เคสแรก เซ่น“จริยธรรม” ส่อเว้นการเมืองตลอดชีวิต