จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 64 เห็นชอบหลักการของการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนเพิ่มอีก 5% เป็นอัตรา 21 บาท/คน/วัน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
สำหรับโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีจำนวนโรงเรียน 49,861 โรงเรียน และจำนวนนักเรียน 5,894,420 คน งบประมาณทั้งสิ้น 25,436,304,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนอัตราใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม นี้ และจะทันต่อการเปิดเทอมครั้งที่ 2 ในปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ด้วย
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ย้อนหลังถึงมติครม.เกี่ยวกับ การปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนมีดังนี้
ปี พ.ศ. 2495
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้จัดการสงเคราะห์ให้แก่นักเรียนเพิ่มยิ่ง ขึ้น เช่น นอกจากการช่วยเหลือให้ได้เล่าเรียนโดยไม่เสียค่าเล่าเรียนแล้ว ยังสงเคราะห์ให้เครื่องแต่งกายให้อาหารกลางวัน ฯลฯ ด้วย และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับไปพิจารณา
ปี พ.ศ. 2542
วันที่ 16 มีนาคม 2542 คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาว่า หากในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป รัฐบาลมีกำลังงบประมาณเพียงพอ ก็ให้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนค่าอาหารนมสำหรับเด็กและเยาวชนในโรงเรียนเอกชนด้วย
ปี พ.ศ. 2551
วันที่ 29 ก.ค. 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนตามโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา จากเดิมอุดหนุนในอัตราคนละ 10 บาทต่อวัน เป็นอัตราคนละ 13 บาทต่อวัน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงศึกษาธิการประสานขอความร่วมมือจากคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อนำรายได้ของ อปท. มาสมทบค่าอาหารกลางวันที่เพิ่มขึ้นในโอกาสแรกก่อน และให้ทบทวนและตรวจสอบจำนวนเด็กนักเรียนที่ได้รับการจัดสรรค่าอาหารกลางวันในปัจจุบันอีกครั้ง
หากจำเป็นก็ให้พิจารณาเสนอของบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งควรส่งเสริมให้โรงเรียนนำเงินทุนหมุนเวียนจากสำนักงานโครงการอาหารกลางวัน กระทรวงศึกษาธิการ มาดำเนินงาน โดยส่งเสริมให้นักเรียนทำการเกษตร เช่น ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ฯลฯ ในโรงเรียนแล้วนำผลผลิตทางเกษตรมาสมทบกับค่าอาหารกลางวัน ตามข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ การจัดอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนดังกล่าวให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกหลักโภชนาการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้นักเรียนได้รับอาหารที่เหมาะสมเพียงพอทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
ปี พ.ศ. 2553
วันที 11 พ.ค. 53 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินประมาณ 1,686.72 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนทุกคนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับภาคการศึกษาที่ 1 ของปีการศึกษา 2553 โดยให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
ปี พ.ศ. 2556
วันที่ 22 ตุลาคม 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นปรับเพิ่มการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 สำหรับโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนจากอัตรา 13 บาทต่อคนต่อวัน เป็น 20 บาทต่อคนต่อวัน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และให้หน่วยงานอื่นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นค่าอาหารกลางวันในอัตรา 13 บาทต่อคนต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอัตรา 20 บาทต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยงบประมาณค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นจำนวน 659,906,800 บาท ให้ขอรับการสนับสนุนจากดอกผลของเงินกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
ให้หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียนพิจารณาเสนอปรับอัตราค่าอาหารกลางวันทุกปี ให้สอดคล้องกับราคาสินค้าและภาวะเศรษฐกิจ โดยให้คำนึงถึงปริมาณและคุณค่าทางโภชนาการเป็นสำคัญ
การปรับเพิ่มอัตราค่าอาหารกลางวันของนักเรียนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน จึงให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขพิจารณากำหนดเกณฑ์ชี้วัดมาตรฐานอาหารและโภชนาการของนักเรียนให้ได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและมีปริมาณที่เหมาะสมกับวัยก่อนเริ่มดำเนินการ รวมทั้งให้มีการติดตามและประเมินผลภาวะโภชนาการของนักเรียนหลังจากได้รับงบประมาณในส่วนนี้เพิ่มแล้ว โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะทุก 6 เดือน
ให้กระทรวงศึกษาธิการนำแนวทางดำเนินการตามโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาปรับใช้กับโครงการนี้ด้วย
ปี พ.ศ. 2563
วันที่ 29 กันยายน 2563 ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการการปรับอัตราค่าอาหารกลางวันของนักเรียน โดยกระทรวงศึกษาธิการขอปรับเพิ่มการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สำหรับโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน จาก อัตรา 20 บาท/คน/วัน เป็น อัตราที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในอัตราตั้งแต่ 24-36บาท/คน/วัน
โดยครั้งนั้นค่าอาหารกลางวันที่เสนอเพิ่มขึ้นของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1-ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 27,109 โรงเรียน นักเรียนจำนวน 4,981,953 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562) ตามจำนวนนักเรียนและขนาดโรงเรียน ระยะเวลา200 วัน รวมงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินโครงการฯ ทั้งสิ้น 24,182.793 ล้านบาท (เฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. 2564)
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยให้นำความเห็นของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรนำจำนวนนักเรียนจากทุกสังกัดมาเป็นข้อมูลประกอบในการปรับค่าอาหารกลางวัน
ควรพิจารณาราคาวัตถุดิบและค่าบริหารจัดการที่สะท้อนต้นทุนคงที่ของโรงเรียนแต่ละขนาดอย่างแท้จริง ควรพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณมีความรอบด้านและเกิดความคุ้มค่าสูงสุด ควรปรับอัตราค่าอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กเป็นลำดับแรก และพิจารณาค่าอาหารตามหลักโภชนาการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ควรมีกลไกติดตาม กำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินโครงการฯ ว่าแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงควรสอดแทรกเรื่องโภชนาการในหลักสูตรการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เป็นต้น ไปประกอบด้วย ให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ค่าอาหารกลางวันนักเรียน” ครม.เคาะปรับเพิ่ม เป็น 21 บาท/คน/วัน
ครม.อนุมัติ “มอเตอร์เวย์บ้านแพ้ว” 1.9หมื่นล้าน แก้รถติดพระราม 2
ครม.เห็นชอบ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" ส่วนต่อขยายเลี้ยวเข้าเมืองทองธานี
ครม.ไฟเขียว “เงินช่วยชาวนา-ต่อประกันรายได้ปาล์ม” ปี2 (มีคลิป)
ข่าวดี! ครม.ชะลอเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อน ยัน ไม่เอาผิด