'แรงงาน' ชงครม.ของบ 1.5 พันล้าน อุ้มตกงาน 6 จังหวัดอันดามัน

03 พ.ย. 2563 | 03:23 น.

"แรงงาน" ชง ครม.ของบ 1,500 ล้านบาท จ้างงาน 6 จังหวัดอันดามัน 18,000 ตำแหน่ง จ่อเสนอบอร์ดประกันสังคมต่ออายุลดเงินสมทบประกันสังคมอีก 3 เดือน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จ.ภูเก็ต วันนี้ (3 พ.ย.) จะนำเสนอที่ประชุมฯขออนุมัติงบประมาณ 1,500 ล้านบาท จากเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการจ้างงานแรงงานในจังหวัดท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงแรงงานทำร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อช่วยสร้างงานในพื้นที่ในช่วงที่แรงงานภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19


สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นการจ้างงาน 18,000 ตำแหน่ง ประกอบด้วยแรงงานในจังหวัดภูเก็ต 8,000 ตำแหน่ง ที่เหลืออีก 5 จังหวัด เป็นการจ้างงานจังหวัดละ 2,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานกำหนดให้จังหวัดเป็นคนจ้างให้ทำงานสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ซึ่งแรงงานที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าจ้างวันละ 330 - 340 บาท สัญญาจ้างงาน 10 เดือน
 

แรงงานในภูเก็ตซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคมว่างงานกว่า 8 หมื่นคน จากแรงงานในระบบประกันสังคมกว่า 1.8 แสนคน โครงการนี้จึงจ้างงานในภูเก็ต 8000 คน ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนจังหวัดอื่นๆใช้ประมาณ 200 ล้านบาท”

 

นายสุขาติ กล่าวต่อว่า แนวทางช่วยเหลือแรงงานในจังหวัดภูเก็ตซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้หารือกับผู้ประกอบการพบว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมได้ให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจ้างงานของภาครัฐ ที่มีการออกค่าจ้างแรงงานให้กับผู้ประกอบการ 50% (co-pay) เพื่อนำแรงงานที่จบใหม่มาฝึกงานในภาคการท่องเที่ยวและช่วยในเรื่องการพัฒนาระบบไอทีการสื่อสารสมัยใหม่ให้กับสถานประกอบการ

 

สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องการให้ยืดระยะเวลามาตรการปรับลดการจ่ายสมทบเงินประกันสังคมจากฝั่งนายจ้างและลูกจ้างจาก 5% เหลือ 2% ที่จะสิ้นสุดมาตรการในเดือน พ.ย.นี้ เรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นำเรื่องนี้หารือในคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม ซึ่งประเด็นที่ต้องหารือ  นอกจากการช่วยเหลือผู้ประกอบการยังต้องคำนึงถึงสถานะของกองทุนประกันสังคมด้วยเพราะการต่ออายุมาตรการออกไปอีก 3 เดือน ก็จะทำให้รายรับที่กองทุนประกันสังคมจะเก็บเข้ากองทุนฯลดลงไปประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท