ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (12 ตุลาคม 2563) มีมติสำคัญหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับผู้ประกันตนมาตรา 40 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน โดย ครม.ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 อัตราใหม่
จากข้อมูลของ กระทรวงแรงงาน ได้ประมาณการรายรับของกองทุนประกันสังคมจากการจัดเก็บเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ณ วันที่ 30 เม.ย. 2563 ระบุว่า มีผู้ประกันตนมีทั้งสิ้น 3,353,939 คน สามารถจัดเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนเมื่อปี 2562 ได้ 1,557 ล้านบาท เป็นเงินสมทบจากรัฐบาล จำนวน 779 ล้านบาท มีการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับผู้ประกันตนที่เสียชีวิต เป็นเงินค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์ประจำปี 2562 จำนวน 200 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"สิทธิบัตรทอง" ร้องนายกรัฐมนตรี ตั้ง กก.สอบ สปสช.
วิธีเช็กรายชื่อโรงพยาบาลยกเลิกสิทธิบัตรทอง
สปสช.ยกระดับ "บัตรทอง"พัฒนา 4 ระบบบริการ ดูแลผู้มีสิทธิ
สปสช.-ธ.กรุงไทย เปิดตัว "เป๋าตังสุขภาพ" จองคิวตรวจ นำร่อง กทม.ดีเดย์ 15 ต.ค.นี้
กระทรวงแรงงาน ประมาณการว่า หากมีการจ่ายประโยชน์ทดแทนในอัตราใหม่นี้ คาดว่า ในปีช่วงปี 2563-2564 กองทุนประกันสังคมจะจ่ายเงินสำหรับค่าทำศพเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 77 ล้านบาท และเงินสงเคราะห์เพิ่มขึ้นอีกปีละประมาณ 93 ล้านบาท
เรามาดูกันว่า ผู้ประกันตามมาตรา 40 จะได้ประโยชน์อะไรจากการปรับหลักเกณฑ์รอบนี้บ้าง...
สาระสำคัญของกฎหมาย เป็นการปรับปรุงอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้สิทธิประโยชน์ทดแทนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ “เงินค่าทำศพ” และ “เงินสงเคราะห์” กรณีถึงแก่ความตาย ดังนี้
1.ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 70 บาท หรือเดือนละ 100 บาท ถึงแก่ความตาย
-ค่าทำศพ เดิมได้เงิน 20,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท
-เงินสงเคราะห์ อัตราเดิม 3,000 บาท เพิ่มเป็น 8,000 บาท
2.ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 300 บาท ถึงแก่ความตาย
-ค่าทำศพ เดิมได้เงิน 40,000 บาท อัตราใหม่ 50,000 บาท