+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับลดลง โดย Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่มีการใช้งาน ณ วันที่ 19 มิ.ย. มีจำนวนลดลง 13 แท่น สู่ระดับ 266 แท่น ซึ่งเป็นการปรับสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับลดเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเมื่อปี 2483
+ ตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศเริ่มมีมาตรการคลายล็อคดาวน์ โดยเฉพาะทางด้านสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีรายงานว่ายอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม
+ คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบจะปรับลดลงในเดือน ก.ค. 63 จากข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรนอกกลุ่ม (OPEC+) โดยเฉพาะอิรักและคาซัคสถานที่ยืนยันว่าจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเวลาอันใกล้นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศจีน แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐและทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนักวิเคราะห์ของ BofA Global Research ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 40.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 43.08 ดอลลาร์/บาร์เรล