เอ็ม บี เค สานต่อธุรกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

11 มิ.ย. 2563 | 12:37 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

หนึ่งในยุทธศาสตร์ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ระยะเวลา 5 ปี (2560-2565) ของ เอ็ม บี เค คือ แนวคิด GO GREEN ที่ประกอบด้วย 3 หัวใจหลัก ได้แก่ Green Energy, Green Office และ Green Challenge โดยองค์กร พยายามสร้างพฤติกรรมและจิตสำนึกที่ดี เกี่ยวกับการร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ทั้งภายในองค์กรและผู้ประกอบการร้านค้า

เอ็ม บี เค ตระหนักดีว่า ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเลือกที่จะลดการใช้พลังงานแบบเดิม มาใช้พลังงานทดแทน ด้วยการใช้ระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่นำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตพลังงานไฟฟ้า เพื่อไม่ปล่อยมลภาวะออกมาทำลายบรรยากาศของโลก โดยการนำนวัตกรรมการผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนด้วยระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) มาใช้ ด้วยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารต่างๆ ของธุรกิจในเครือ เอ็ม บี เค

 

เอ็ม บี เค สานต่อธุรกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เอ็ม บี เค ได้สำรวจพื้นที่ดาดฟ้าของแต่ละอาคาร คำนวณการรับน้ำหนัก ว่าสามารถวางแผนผังของวงจรแผ่นรับความร้อนได้ดีหรือไม่ หลังจากนั้น จึงดำเนินการติดตั้งทันที ลักษณะของแผ่นรับความร้อน เป็นแผ่นวงจรเชื่อมต่อๆ กันหลายแผ่น เมื่อรับความร้อนจากแสงอาทิตย์มาแล้ว ก็จะแปลงความร้อนเข้าสู่ระบบเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อเชื่อมสู่กระแสไฟฟ้าหลักของแต่ละสถานที่ได้ทันที นอกจากนี้ ก่อนการติดตั้ง ยังสามารถคำนวณกระแสไฟฟ้าที่จะผลิตได้โดยประมาณ เพื่อให้ทราบว่าจะได้กระแสไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน

เอ็ม บี เค สานต่อธุรกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

 

เอ็ม บี เค ได้วางแผนการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในธุรกิจต่างๆ ของ เอ็ม บี เค แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสแรกที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เพลส ซึ่งมีขนาดกำลังติดตั้งที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณปีละ 734,000 หน่วยต่อปี สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 528,000 บาทต่อปี โดยเฟสแรกดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

เอ็ม บี เค สานต่อธุรกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ส่วนเฟส 2 เป็นโครงการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 สนามกอล์ฟริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟ บางกอกกอล์ฟ คลับ และโรงแรมทินิดี โฮเทล แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ รวมทั้ง 2 เฟส จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 2,066,000 หน่วย สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 2,454,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 695 ตันต่อปี สำหรับในเฟสที่ 3 จะเป็นแผนการศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปให้กับธุรกิจอื่นๆ ในเครือ เอ็ม บี เค ในปีต่อไป

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,582 วันที่ 11 - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2563