โควิด-19 กับโรคประสาท อะไรจะมาก่อนกัน

15 เม.ย. 2563 | 11:59 น.

หลังโลกได้รับรู้เรื่องโรคติดต่อปริศนา หลังจากทางการจีนยืนยันเมื่อ 31 ธ.ค. 2562 ว่าเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น ในเวลาต่อมา จีนและองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ไวรัสชนิดนี้คือ "เชื้อไวรัสโคโรนา"หรือโควิด-19 ตลอดระยะเวลา3เดือนกว่าๆจะปรากฎ คำค้นหาใน Google Trend หรือเวบไซต์สื่อต่างๆ จะมีคำค้นหาเรื่องโควิด-19 ในทุกๆ วันเยอะมากๆ

ขณะที่คนไทยหันไปให้ความสนใจกับข่าวสารเรื่องโควิด-19 กันมากทีเดียว จนอาจลืมไปว่าเรากำลังมีอาการ “ระแวง” และเครียด จนจะเป็นโรคประสาท ด้วยว่า แม้ยังไม่มีวี่แววหรืออาการเลย แถม ในตอนนี้ข่าวสารก็ยังไม่ชัดเจน สิ่งนี้อาจถือเป็นอันตรายต่อทุกคน นอกจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็คงจะเป็นความกลัวที่ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลและความเครียด หลายคนติดตามข่าวสารตลอดเวลา แต่ละวันจะมีการแจ้งข่าวสารว่ามีผู้ติดเชื้อในสถานที่ต่าง ๆ ทุกวันจากหลักสิบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นหลักร้อยต่อวันแถมยังมีแนวโน้มว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียว 

 ยิ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ในทางกลับกันตัวเลขเงินในบัญชีของหลายคนก็ลดลงเรื่อย ๆ สถานการณ์ทั้งหมดยิ่งสร้างความเครียดและความกดดันให้หลายคนเป็นอย่างมาก ด้วยภาระหนี้สินและการงานที่มีปัญหา บางคนกิจการไม่สามารถไปต่อได้ บางคนตกงานกระทันหัน ฯลฯ จึงทำให้ทุกคนมีความเครียดและความกลัว 

“ทุก ๆ ความเครียดและความกลัวได้แพร่กระจายเป็นวงกว้างทางสื่อออนไลน์อย่างรวดเร็ว ฉับไว จนสติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพไหน หรือว่าเป็นใคร จะคนธรรมดาทั่วไป หรือคนดังระดับประเทศ ทุกคนมีสิทธิที่จะติดเชื้อไวรัสในเปอร์เซ็นต์ที่เท่า ๆ กัน”

“ ตอนนี้เราสามารถติดเชื้อไวรัสกันเองในประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยิ้มให้คุณตรงหน้าปากซอยหรือคนที่นั่งกินข้าวติดกันเมื่อคืน 

ทุกคนสามารถเป็นพาหะได้ทั้งสิ้น ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงอีกต่อไป

หลายคนพูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า “ฉันเป็นโควิดหรือยัง” นั่ง ๆ เลื่อนฟีดข่าวในมือถืออ่านอาการโรคโควิด-19 ก็รู้สึกเหมือนตัวร้อน ๆ รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ ตอนนี้เรียกได้ว่าสติกระเจิดกระเจิงไปหมด เชื่อว่าใครหลายคนคงได้อ่านข่าวประชาชนออกไปซื้อของกักตุนอาหาร พอเห็นภาพของบนชั้นวางสินค้าหมดเกลี้ยง ก็รีบดีดตัวออกไปซูเปอร์มาร์เก็ตทันทีเพราะกลัวอดตายใช่ไหม? (ถ้าคุณเป็นแบบนี้เราเป็นเพื่อนกัน)” 

ตอนนี้สังคมกำลังกลัวและกังวลกับเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้

หลายคนกำลังวิตกกังวลอย่างหนัก  จะเดินไปไหนหรือจะไปทำธุระนอกบ้านก็กลัวไปเสียทุกอย่าง กระแสความกลัวส่งผลต่อทุก ๆ คนและหลายด้าน ทั้งการใช้ชีวิต เศรษฐกิจ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปในเวลาที่รวดเร็ว 

การทำมาหากินก็เหมือนจะยากลำบากขึ้นไปทุกที สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าปั่นป่วนถึงขีดสุด สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของกระแสความกลัวในครั้งนี้ก็คือ การรับข่าวสารต่าง ๆ เพราะข่าวสารรวดเร็วมากและในปัจจุบันยังมี Fake new เยอะไปหมด

จนทุกวันนี้แทบจะแยกไม่ออกว่าอันไหนข่าวจริง อันไหนข่าวปลอม (สรุปก็คือต้องกลัวไว้ก่อน) แถมตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลด มันบีบหัวใจเหลือเกิน

สถานการณ์ตอนนี้จะกุมมือใครก็ไม่ได้เพราะกลัวจะติดเชื้อไวรัส คงต้องปลอบใจและกุมมือตัวเองกันไปก่อน เพราะสถานการณ์ตอนนี้แยกกันเราอยู่ รวมหมู่ติดโควิดแน่นอน คงต้องบอกคนที่คุณรักว่า “ช่วงนี้เราห่างกันสักพักนะ”

ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนกำลัง “จิตตก” กับการข่าวสารในแต่ละวัน เพราะไม่ว่าจะเปิดฟีดอะไรก็จะเจอแต่โควิด โควิด โควิด เต็มไปหมดจนรู้สึกหลอน ภาวะ “จิตตก” เป็นอาการที่เกิดจากความเครียด ความกดดัน และความกลัว เมื่อ "จิตตก" เป็นระยะเวลานานจะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน 

ดังนั้นใครที่เกิดการจิตตกขั้นรุนแรง จะนำไปสู่อาการของโรคทางประสาท เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้าและอีกสารพัด

คาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่เช่นนี้ คิดว่าจะมีผู้คนทุกระดับอายุ ต้องเข้ารับการรักษาโรคทางประสาทเป็นจำนวนมากแน่นอน หลังจากสิ้นสุดสถานการณ์โควิด-19 เพราะหลายคนไม่รู้ว่าชีวิตต่อจากนี้จะผ่านไปยังไง

บางคนแม้จะยังไม่ติดโควิดแต่ก็เหมือนตายทั้งเป็นเพราะไม่มีงาน ไม่มีเงิน หาทางออกของวันพรุ่งนี้แทบไม่เจอ หลายคนยังอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่คงที่ กังวลในทุก ๆ เรื่อง ขอบอกไว้ก่อนถ้าคุณไม่สามารถที่จะจัดการอารมณ์และจำกัดการรับข่าวสารได้ ชีวิตของคุณหลังจากนี้ก็คงจะลำบากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายอาจจะเกิดภาวะเครียดรุนแรงจนนำไปสู่ปัญหาสารพัด

ขณะที่เราทุกคนต้องต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็นอยู่นี้ วิธีที่ดีที่สุดที่อยากให้ทุกคนทำคือ ดูแลตัวเองและสุขภาพจิตของตัวเองให้เข้มแข็ง ส่วนการจัดการกับอารมณ์และความกลัว คือการเลือกอ่านข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และต้องมีช่วงเวลาที่คุณห่างจากโซเชียลบ้าง เพื่อเป็นการพักผ่อนสมองของคุณเอง เพราะเราทุกคนคงต้องอยู่กับไวรัสโควิด-19 อีกพักใหญ่เลยทีเดียว อย่างไรก็ดี การมีโอกาสระบายความรู้สึกอึดอัด คับข้องใจ ก็เป็นสิ่งที่ดีอีกประการ 

จึงอยากแนะนำ เพจ 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต หรือโทร 1323 ,@helpline1323,https://www.facebook.com/helpline1323/หรือ เพจ จิตแพทย์ ออนไลน์,https://www.facebook.com/jitpat.online/  หรือ เพจสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย  https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/  

เหล่านี้เป็นแหล่งที่คุณจะเข้าไปผ่อนคลายความเครียดได้ไม่มากก็น้อย

นี่อาจเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดในปี 2563 ของคนทั่วโลกเลยก็เป็นได้ แต่ชีวิตคนเรามีไว้ต่อสู้อุปสรรคนานา ...ดังนั้น..มาสู้ไปด้วยกัน