วันนี้(15เม.ย.) เวลา 10:30 น. ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาอัษฎางค์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา กลุ่มธุรกิจรายย่อยจังหวัดนครราชสีมานำโดย นายสมยศ พัดเกาะ พร้อมสมาชิก ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึก และวางพวงหรีดเขียนข้อความไว้อาลัยแด่ธนาคารพาณิชย์ไทย โดยมอบผ่านประธานชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอให้ทุกธนาคารทบทวนการพักชำระหนี้แบบคิดดอกเบี้ยซ้อน และไม่พอใจธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ออกมาตรการไม่จริงใจ ในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย
นายสมยศกล่าวว่า จากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด- 19 ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างหนัก ซึ่งเป็นมหันตภัยร้ายที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และรัฐบาลก็ได้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน ออกคำสั่งห้ามประชาชนเข้าพื้นที่เสี่ยง ปิดสถานที่เสี่ยง ห้ามการเดินทางข้ามจังหวัด ให้พักอยู่ในบ้าน
มาตรการของรัฐดังกล่าวทำให้ลูกหนี้ของธนาคารประสบปัญหาอย่างหนัก เพราะไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการ อีกทั้งลูกหนี้ที่กู้เงินธนาคารไปประกอบธุรกิจ ส่วนใหญ่ยังคงแบกภาระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคารทุกเดือน แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึง 2563 เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ก็พยายามหาเงินมาจ่ายให้ตรงกำหนดเวลาที่ธนาคารกำหนด เพราะเกรงจะเสียประวัติการจ่ายเงิน
แต่ล่าสุดมาตรการที่ธปท.อ้างว่า ออกมาช่วยเหลือประชาชนนั้น ไม่ได้มีผลดีอะไรเลย แต่กลับเป็นมาตรการที่ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว ไม่จริงใจ เพราะเป็นกติกาช่วยแบบซ่อนดอกเบี้ยไว้ซึ่งเป็นการซ้ำเติมลูกหนี้
ฉะนั้น ทางกลุ่มธุรกิจรายย่อยในจังหวัดนครราชสีมาจึงขอเรียกร้อง ให้ธนาคารทุกธนาคารแสดงน้ำใจต่อเพื่อนร่วมธุรกิจด้วยกัน ออกมาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจ ไม่หมกเม็ด ไม่ซ้ำเติมลูกหนี้ ให้ตรงกับที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่ธปท. ก็จะใช้เงินถึง 4 แสนล้านมาช่วยเหลือธนาคารต่าง ๆ แต่ทางธนาคารกลับไม่คิดช่วยเหลือประชาชน จึงขอให้ทุกธนาคารรวมถึงธปท.ไปทบทวนวิธีการช่วยเหลือลูกค้าใหม่ ให้ความเป็นธรรมและจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา แก้ไขให้ตรงจุด ให้ช่วยเหลือจริง ๆ ก่อนที่ผู้ประกอบการทั้งประเทศจะทนไม่ไหวและยกระดับการเรียกร้องมากขึ้นอีก