เคาะ24มิ.ย.ประมูล4จีรอบใหม่ เอไอเอส-ทรูยํ้าชัดรอดูกติกา
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
บอร์ด กทค. เคาะวันประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ดีเดย์ 24 มิ.ย. 59 เริ่มต้นราคา 75,654 ล้านบาท พร้อมเพิ่มวงเงินหลักประกันเป็น 3,783 ล้านบาท ขณะที่ 2 ค่ายมือถือเรียกร้องบนเวทีสัมมนาสร้างความเป็นธรรมให้เกิดการแข่งขันเสรี ขณะที่ค่ายเบอร์ 1 "เอไอเอส" เรียกร้องให้รัฐเริ่มต้นราคาประมูลใหม่ ไม่อยากให้ยึดตึดราคาเดิม ด้าน "ทรู" เผยถ้าประมูลใหม่ราคาต่ำกว่าต้องปรับลดราคาเช่นเดียวกัน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เมื่อวันที่ 31 มีนาคมได้อนุมัติกรอบเวลาในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ดังนี้ วันที่ 5-28 เมษายน 2559 เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 895-905 MHz/940-950 เมกะเฮิรตซ์ (หรือ ร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์)
โดยวันที่ 22 เมษายน 2559 จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศดังกล่าว ถัดมาวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ร่างประกาศจะถูกส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นวันที่ 13 พฤษภาคม-12 มิถุนายน 2559 ประกาศเชิญชวนเข้าร่วมการประมูล ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2559 ยื่นคำขอเข้าร่วมการประมูล และวันที่ 24 มิถุนายน 2559 คือ วันประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุม กทค. ยังได้อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล ร่างประกาศฉบับนี้ตัดสิทธิ์ผู้ที่ไม่มาชำระเงินค่าประมูลจากการประมูลครั้งที่แล้ว และราคาเริ่มต้นการประมูลอยู่ที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งราคาเริ่มต้นนี้เป็นราคาที่ผู้ชนะการประมูลครั้งที่แล้วเสนอ เนื่องจากสำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานของรัฐ ต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นหลัก ส่วนการวางเงินหลักประกันคิดเป็น 5% ของราคาเริ่มต้นการประมูล 75,654 ล้านบาท ซึ่งจะเท่ากับ 3,783 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์การประมูลครั้งที่แล้ว
อย่างไรก็ตามงวดการจ่ายเงินค่าประมูล แบ่งออกเป็น 4 งวด ตามหลักเกณฑ์การประมูลครั้งที่แล้ว คือ งวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ งวดที่ 2 4,020 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ งวดที่ 3 4,020 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ และงวดสุดท้ายจ่ายที่เหลือทั้งหมด
นายฐากร ยังกล่าวต่ออีกว่า กรณีความรับผิด หากผู้ชนะการประมูลไม่มาชำระเงิน นอกจากจะยึดหลักประกัน 3,783 ล้านบาทแล้ว สำนักงาน กสทช. จะเรียกค่ารับผิดเพิ่มอีก 11,348 ล้านบาท รวมเป็น 15,131 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของราคาตั้งต้นการประมูล นอกจากนี้หากมีความเสียหายเพิ่มเติมมากกว่านี้ สำนักงาน กสทช. จะมีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมในส่วนนี้อีก สำหรับร่างหลักเกณฑ์การประมูลฉบับนี้ เป็นร่างที่ใช้เฉพาะการประมูลในครั้งนี้เท่านั้น จึงเสนอเงื่อนไขกรณีมีผู้ประมูลรายเดียว แต่มีการเคาะยืนยันราคา 75,654 ล้านบาท ก็ให้ถือว่าเป็นผู้ชนะการประมูล
นอกจากนี้การประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 หากผู้ชนะการประมูลรายที่ 1 ไม่มาชำระเงินค่าประมูล สำนักงาน กสทช. จะเรียกผู้ชนะการประมูลลำดับที่ 2 มาชำระเงินประมูล และเป็นผู้ชนะแทนได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และกรณีที่มีผู้เสนอราคาเท่ากัน 2 ราย สำนักงาน กสทช. อาจมีการประกาศเพิ่มเติมให้มีการดำเนินการยื่นซองราคา เพื่อแข่งขันราคาเลยก็ได้
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้เสนอแนวความคิดเห็นเปิดประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ บนเวทีสัมมนา "4Gมาใครได้ประโยชน์?" ที่ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ได้จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ทุกคนมีโอกาสแสวงหาคลื่นความถี่ใหม่ๆ เอไอเอสมีความสนใจอยู่ตลอดเวลาเรื่องโมบายดาต้าเพราะในอนาคตคลื่นความถี่มีความจำเป็น แต่ เอไอเอส ต้องรอกฎกติกาทั้งหมดที่เป็นทางการ หลังจากนั้นก็จะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาบอร์ดของบริษัทเพราะว่า เอไอเอส ต้องดูสภาพแวดล้อมการแข่งขัน ณ วันนั้นเป็นอย่างไรบ้างรวมถึงผลตอบแทนกลับมา การลงทุน ทั้งหลายทั้งสิ้นอยู่ที่กติกาที่ชัดเจนเป็นทางการบวกกับต้องนำเสนอบอร์ดพิจารณาในรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม กสทช. เพราะที่ผ่านมาทำหน้าที่ได้อย่างดีมาก แต่ กสช.เป็นหน่วยงานกำกับดูแลมีหน้าที่ 3 อย่าง คือ 1.หาทรัพยากรธรรมชาติของรัฐให้มีประโยชน์สูงสุด, 2.ดูแลประชาชน คือ ผู้บริโภค และอันที่ 3. ที่สำคัญมาก กสทช.กำกับดูแลผู้ประกอบการทั้งหลายเท่าเทียมและเป็นธรรม การประมูลคลื่น 1800 ไม่มีปัญหาการจ่ายค่าใบอนุญาต
"แต่พอมีคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์เข้ามาเป็นการประมูลที่อะเมซิ่งมากคนไม่คิด ราคาประมูลจะโอเวอร์ขนาดนั้น ต้องขอบคุณ ทรู ที่มีพันธกิจ กสทช. ทำหน้าที่ดีมากข้อแรก คือ การหาเงินเข้ารัฐรวมประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ทันทีที่ประกวดราคาเสร็จสิ้นจะเห็นเลขตลาดโทรคมนาคมในตลาดหุ้นตกหมดทุกทั้งได้คลื่นและไม่ได้คลื่น ณ วันนั้นมาร์เก็ตแคปหายไป 2-3 แสนล้านบาท"
นายสมชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่นำเสนอไปให้กับ กสทช.นั้นอยากให้ความคิดนี้ในที่ประชุมของ กทค.ไม่ใช้ตัวเลขประมูลคลื่นถี่ในราคา 7.3 หรือ 7.5 หมื่นล้านบาท แต่แน่นอน กสทช. มีเหตุผลต้องกำกับดูแลแข่งขันให้เป็นธรรมจำเป็นอย่างยิ่งให้ความเป็นธรรมกับ ทรู เพราะได้ส่งเงินไปแล้ว 7.6 หมื่นล้านบาทเป็นภาระผูกพันเป็นภาระ เชื่อว่ากติกาต่างๆ ที่ กสทช.ออกมาคงต้องดูตรงนี้ หากมีผู้เสนอราคาต่ำกว่า ทรู ต้องปรับลดราคาให้กับ ทรู เช่นเดียวกัน
สิ่งที่ กสทช.ต้องปรับโหมดถ้าหากเห็นว่าวิธีที่เดินอยู่หรือเดินไปเป็นอุปสรรคเป็นข้อผิดลาด ลองมีอะไรไหม มีกฎหมายอะไรต่างๆ สามารถนำไปประมูลเอาใหม่เป็นราคายอมรับได้ในสากล มีการทำราคาออกมา ถ้าราคาแตกต่างจาก ทรู ในขณะนั้น ควรมีมาตรการทางกฎหมายถูกต้อง และ กสทช.ไม่ผิดลดราคาของ ทรู ลงมาให้เท่ากับตรงนี้
"นี้คือสิ่งที่ผมนำเสนอออกไปสู่สาธารณชน ถ้ารัฐบาลหรือหน่วยงานใช้อำนาจหน้าที่ได้เป็นประโยชน์อุตสาหกรรมโดยรวมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโอเปอเรเตอร์ต่างๆ ไม่เช่นนั้นมาตรฐานราคา (Benchmark) อ้างอิงผิดไป ในอนาคตประมูลคลื่น 2300 หรือ 2600 เมกะเฮิรตซ์ มีราคามาตรฐานอ้างอิงผมไม่พูดถูกหรือแพง แต่เมื่อมีราคามาตรฐานอ้างอิงขึ้นมาตรงนี้เป็นอุปสรรคพัฒนาประเทศอีกมากมายแต่ก็เข้าใจข้อจำกัดของ กสทช. ในเรื่องข้อกฎหมาย แต่อยากฝากผู้มีอำนาจในภาครัฐ เพราะเราได้เห็นผู้ร่วมประมูลแล้ว ที่ผ่านมาเราทำคุณประโยชน์อันหนึ่ง แต่ภายใต้คุณประโยชน์ลองผิดลองถูกเรียนรู้อาจมีจุดไม่ถูกต้อง อยากให้กลับมาแก้ดีกว่าเดินโดยมาตรฐานราคาไม่ถูกต้อง"
ขณะที่นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทในเครือ คือ ทรูมูฟ เอช ชนะประมูลคลื่น 900 ในชุดที่ 2 กล่าวบนเวทีสัมมนาเดียวกันว่า กรณีที่เปิดประมูลคลื่น 900 ใหม่ บริษัทมีจุดยืนได้ชี้แจงไปแล้วว่า การแข่งขันต้องอยู่บนพื้นฐานความทัดเทียมเสมอภาค และเป็นธรรม เนื่องจากมีการตั้งต้นราคาเดิมของผู้ชนะประมูลครั้งที่แล้วเมื่อบริษัทรับทราบและยอมรับในแนวทางดังกล่าวจึงได้วางแบงก์การันตีและเงินงวดแรก แต่ถ้าไม่มีผู้มาประมูลคลื่นความถี่ 900 ต้องเก็บคลื่นความถี่ไว้ 1 ปี และไม่ว่าจะกลับมาเปิดประมูลใหม่ กสทช. ต้องเริ่มราคาชนะประมูลในครั้งที่แล้วซึ่งใกล้เคียงราคาประมูลของ ทรู นั้นเป็นหลักการ บริษัทจึงยอมรับและได้วางเงินชำระค่าคลื่นงวดแรกพร้อมแบงก์การันตี
กรณีถ้ามีการปรับลดราคาและในที่สุดผลการประมูลต่ำกว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่บริษัทต้องขอความเป็นธรรมอันนี้เป็นจุดยืนของบริษัทขอความเป็นธรรมถ้าในที่สุดผู้ที่ประกอบการแข่งขันโดยตรงมีโอกาสประมูลครั้งที่ 2 ในที่สุดแล้วมีผู้ชนะราคาที่ต่ำขอพิจารณาปรับราคาให้บริษัทด้วย เป็นสิ่ง ที่บริษัทแสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในแง่บริษัทมั่นใจกระบวนการของ กสทช.และภาครัฐให้ความเป็นธรรม บริษัทฯเดินหน้าลงทุน 4 จีเต็มที่
อย่างไรก็ตามล่าสุดนายศุภชัย ออกมาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเรื่องหลักเกณฑ์การประมูลของ กสทช.ไม่ผิดความคาดหมายที่ ทรู คาดการณ์ไว้ แต่ ทรู จะเข้าร่วมการประมูลหรือไม่ต้องใช้เวลาการศึกษาประมาณ 2 เดือนก่อนหารือย่างเป็นทางการในการประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์เป็นคลื่นที่มีคุณภาพดี และมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นคลื่นความถี่ 5G ได้ ดังนั้นต้องศึกษาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบก่อน แต่อย่างไรก็ตามหากศึกษาแล้วและตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลรอบใหม่นั้น ก็ยังยืนยันว่าทรูมีคลื่นความถี่ที่เพียงพอที่พร้อมในการแข่งขัน และ ให้บริการอย่างน้อย 3 ปี
ส่วนทางด้าน พ.อ.ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และในฐานะประธาน กทค. กล่าวบนเวทีสัมมนาเช่นเดียวกันว่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย กสทช.ทำตามหน้าที่กรอบกฎหมายทุกประการ แต่ตอนนี้อำนาจ กสทช.ต้องทำอำนาจของ กสทช.ให้ดีเสียก่อน ส่วนอำนาจอื่นๆ จะใช้หรือไม่ใช้อย่างไร ไม่ใช่อำนาจของ กสทช. เข้าใจอยู่เต็มอก แต่การที่ กสทช.ทำอะไรนอกเหนืออำนาจ ไปทำอะไรที่มันเหมือนทำลาย เสาก็ล้มลงมาอยู่ดี ถึงแม้จะทำและดูดี แต่ในทางกฎหมาย คือ ทำไม่ได้ก็ คือทำไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบทเรียนอันนี้ไม่จบแค่นี้ แต่ประเด็นตอนนี้จะเดินหน้าอย่างไรมากกว่าเพราะ กสทช. ทำหน้าที่เต็มเพดาน
นอกจากนี้ในวันที่ 5 เมษายน สำนักงาน กสทช.ได้นัดหมาย บริษัท จัสมิน โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด มาหาหรือผลเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ชุดที่ 1 ซึ่งแจส เสนอราคาสุดท้ายที่ 75,654 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,145 วันที่ 3 - 6 เมษายน พ.ศ. 2559