"สถาบันเพื่ออนาคต" ผนึก ปตท. บ่มเพาะพนักงาน มองอนาคต "เทคโนโลยี-พลังงาน"

19 ต.ค. 2561 | 03:24 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สถาบันเพื่ออนาคต หรือ IFTF จับมือ TMA บ่มเพาะคน ปตท. มองอนาคต วางกลยุทธ์ ผสานเทคโนโลยีและพลังงาน เผย เตรียมเปิดอบรมปีหน้า

นายฌอน เนส ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจสถาบันเพื่ออนาคต (Institute for the Future - IFTF) สหรัฐอเมริกา สถาบันกลุ่มวิจัยอิสระที่ไม่หวังผลกำไร เปิดเผยว่า หลังได้ร่วมงานกับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และเข้ามาร่วมเป็นวิทยากร หัวข้อ "Future Thinking" ในงาน Outstanding Technologist Awards and STI Forum 2018 ในปีหน้ายังได้ผสานงานกับ TMA จัดอบรมพนักงาน ปตท. เกี่ยวกับการมองอนาคตเพื่อวางกลยุทธ์ต่าง ๆ

โดยมองว่า การมองอนาคตเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนควรมีการมองอนาคต โดยภายใน 3 ปี เพื่อวางกลยุทธ์ระยะสั้น และ 12 ปี สำหรับแผนระยะยาว

สิ่งที่องค์กรยุคนี้ควรคำนึงถึงมี 2 ประเด็น ได้แก่ 1.การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Staffing) โดยองค์กรจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคลากรไว้ให้ได้ และ 2.องค์กรต้องให้ความสำคัญกับการเคารพกฎระเบียบและข้อบังคับทางกฎหมาย (Laws & Regulations) เพื่อทำให้สิ่งใหม่สามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ขัดต่อกฎหมาย

ในแง่ของการวิจัยและพัฒนา (R&D) จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ (Big Shift) ที่เกิดขึ้นในสังคม โดยยกตัวอย่าง กรณีของโนเกีย ที่เคยเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดมือถือและมีสัดส่วนการครอบครองตลาดมากกว่าแอนดรอยด์ประมาณ 2.5 เท่า แต่ภายในระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว แอนดรอยด์สามารถเข้ามายึดครองส่วนแบ่งการตลาดแทน และเติบโตจนกลายเป็นผู้นำตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากกรณีดังกล่าว แอนดรอยด์สามารถมองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และหยิบเอาสิ่งนั้นมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จนตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในที่สุด

ด้าน คมนาคม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการหาที่จอดรถ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ จากสถิติพบว่า คนใช้เวลาประมาณ 4% ของทั้งหมด ในการหาที่จอดรถ แต่ในอนาคตอาจมีเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอดังกล่าวได้

อนาคตตัวงานจะเป็นฝ่ายตามหาคน (Work finds you) เพียงแค่ค้นหาใน Google ก็จะมีผู้ที่พร้อมจะผลิตงานชิ้นนั้นออกมา โดยมีทางเลือกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่า "Internet to Action" เป็นการใช้ Internet เป็นสื่อกลางและนำไปสู่การกระทำที่ตามมาภายหลัง

595959859