ยังบลัด | GEN2 "นานมีบุ๊คส์" ธุรกิจต้องปรับตัว เพื่ออยู่รอด

05 ต.ค. 2561 | 01:49 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันนี้แม้ยอดขายหนังสือจะลดลง แต่สำนักพิมพ์เก่าแก่ อย่าง "นานมีบุ๊คส์" ยังคงดำเนินธุรกิจได้อย่างมีกำไร มีกำลังขยายธุรกิจใหม่ การยืนหยัดอยู่ได้เช่นนี้ GEN2 "เจน จงสถิตย์วัฒนา" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดใจให้ฟังว่า เป็นเพราะการปรับตัวที่เกิดขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงเดี๋ยวนี้

การปรับตัวที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจของตระกูลขณะนี้ไม่ได้พึ่งยอดขายจากการขายหนังสือ 100% เหมือนใน
อดีต เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเน้นการ "ต่อยอดจากจุดเด่นที่เรามี ขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ด้านนวัตกรรมการเรียนการสอน"

ไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมด้านการเรียนการสอน ซึ่งเน้นหลักสูตรการเรียนรู้ที่นอกเหนือจากการเรียนการสอนทั่วไป โดยเราได้ไปร่วมทุนกับ GAKKEN (บริษัทด้านการศึกษาใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น) มาเปิดสถาบันสอนวิทยาศาสตร์ในไทย วิธีการสอนจะไม่เน้นท่องจำ เน้นการทดลองจริง เหมือนที่สอนในญี่ปุ่น เราทำเป็นแฟรนไชส์ ปัจจุบัน มี 20 สาขา และคาดว่า ในปี 2562 จะขยายได้เป็น 100 สาขา

นอกจากนี้ เรายังตั้ง "นานมี บุ๊คส์ อินโนเวชั่น" ซึ่งเป็นสถาบันที่รับจัดการอบรมต่าง ๆ ซึ่งจะไปจัดอบรมให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ คอร์สอบรมครู และเรายังไปซื้อโปรแกรม Maths-Whizz  ซึ่งเป็นโปรแกรมการสอนทางระบบออนไลน์ของประเทศอังกฤษ โดยขายให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ให้นักเรียนได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากวิชาเรียนปกติ

ทั้งล่าสุด ยังได้เปิด RAIN TREE Residence ที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ Go Genius Learning Center ซึ่งจะมีบริการห้องพักสไตล์บูติกขายแก่นักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการมาพักผ่อน และขายสำหรับการจัดเอาติ้งสำหรับบริษัทที่สนใจและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ


610605-301

คุณเจน เล่าว่า ที่นี่เดิมเป็นที่ของครอบครัว เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนแรกคิดจะสร้างบ้านเพื่ออยู่ด้วยกัน หลังคุณพ่อ-คุณแม่ (สุวดี-พิชิต จงสถิตย์วัฒนา) เกษียณ ด้วยพื้นที่ซึ่งเป็นธรรมชาติ ประกอบกับครอบครัวเราเป็นคนรักหนังสือ ก็เลยพัฒนาพื้นที่นี้ส่วนหนึ่งให้เป็นศูนย์สัมมนาให้กับพนักงานของบริษัท จากนั้นเราก็มีลูกค้ามาพัก ก็อยากให้เราขยายทำเป็นที่พักและทำเรื่องการเรียนรู้ไปด้วย เราเลยลงทุนขยายที่พักให้ใหญ่ขึ้น จากเดิมทำเล็ก ๆ แค่รองรับได้ราว 100 คน ขยายให้รองรับได้ราว 200 คน มี 51 ห้อง พักได้ตั้งแต่มาเป็นคู่ แบบครอบครัว และห้องพักแบบรวม พักได้ 20-30 คน ที่เพิ่งจะเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งไปเมื่อเดือน มิ.ย. 2561

จุดเด่นของที่นี่ คือ ห้องพัก ที่การตกแต่งจะเป็นธีมของนักเขียนแต่ละคน ทั้งคนไทยและต่างชาติ และ 1 ในนั้น คือ ห้องแว่นแก้ว ซึ่งเป็นพระนามแฝงของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือสำหรับเด็ก และที่สำคัญ คือ การจัดเอาต์ดอร์และอินดอร์ เทรนนิ่ง สเปซ ในพื้นที่นี้ ที่เน้นกระตุ้นการเรียนรู้ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ สถานีการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ อาทิ จักรยานล้อสี่เหลี่ยม เกลียวอาร์คิมีมิส ลานครึ่งวงกลมแอมฟิเทียเตอร์ สำหรับทำกิจกรรม ลานราตรี สำหรับกิจกรรมดาราศาสตร์ เป็นต้น

การจัดกิจกรรมการอบรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่ ก็จะทำโดย "นานมี บุ๊คส์ อินโนเวชั่น" บริการลูกค้าองค์กร บริษัท มูลนิธิต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น จากการลงทุนที่พักของเราที่เขาใหญ่ จึงสร้างความแตกต่างจากโรงแรมอื่นในเขาใหญ่

"การปรับตัวที่เน้นขยายการลงทุนด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการเรียนการสอน ทำให้ปัจจุบัน นานมีบุ๊คส์สามารถปรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหนังสือจาก 100% อยู่ที่ 85% ส่วนอีก 15% จะเป็นรายได้จากนวัตกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการขายหนังสือ ช่องทางหลักยังเป็นการขายผ่านร้านหนังสือ อย่าง ซีเอ็ด, นายอินทร์, บีทูเอส เป็นหลัก แต่เสริมด้วยการขายผ่านออนไลน์"

ส่วนธุรกิจนำเข้าแบรนด์รองเท้า ในนาม บริษัท เอ เอ ฟุตแวร์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ GEOX , pierre cardin , AEROSOLES ที่ทำมานาน ก็เตรียมจะปิดสาขากว่า 100 จุดในสิ้นปีนี้ เพราะการดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทำยากขึ้น เราจึงเน้นไปขยายงานด้านนวัตกรรมมากกว่า ทำให้สถานะของเราวันนี้ยังอยู่ได้ดี และสามารถผลิตหนังสือดี ๆ มีคุณภาพ ที่คนไทยควรอ่านได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย


หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,406 วันที่ 4-6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว