ข้าพระบาท ทาสประชาชน : กองหนุนหรือแนวร่วมนายกฯลุงตู่ สำคัญอย่างไร?(1)

21 ม.ค. 2561 | 17:14 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

5485478 562652 ก่อนถึงวันขึ้นปีใหม่ เมื่อเวลา 09.05 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำรองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ อันถือเป็นประเพณีที่ดีงามและการแสดงออกถึงความรักความปรารถนาดี ที่ พล.อ.เปรม ได้ปฏิบัติต่อบรรดาขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

โดยเฉพาะต่อเหล่าบรรดาทหารหาญรุ่นน้อง ที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองในตำแหน่งต่างๆ เป็นเช่นนี้เสมอมายาวนาน แต่โอกาสในวันดังกล่าว พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือที่ป๋าเปรมเรียกว่า “นายกฯลุงตู่” หรือ “ตู่” เช่นเดียวกับที่ประชาชนเรียกท่านนายกฯ ได้รับคำอวยพรและคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่งจากป๋า ถือเป็นพรอันทรงคุณค่าที่สุดเท่าที่เคยได้ยินได้ฟังป๋ากล่าวกับผู้นำประเทศหรือนายกรัฐมนตรีท่านอื่นๆ
65658 หากจะถอดความจากคำกล่าวอวยพรของป๋าเปรมในสาระสำคัญ คงไม่มีเรื่องใดสำคัญยิ่งไปกว่าการที่ป๋าพูดถึงเรื่อง “กองหนุนนายกฯลุงตู่” ซึ่งป๋าได้กล่าวไว้ว่า“ขอขอบคุณนายกฯ ที่รักษาประเพณีมาอวยพรปีใหม่ ทั้งนี้คนไทยทุกคนทราบว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กำลังทำเพื่อชาติบ้านเมือง นายกฯได้ให้สัญญาว่า จะนำความสุขมาให้คนไทยเท่าที่จะทำได้ว่า จะทำทุกอย่างให้คนไทยมีความสุขมากขึ้น โดยเฉพาะคนยากคนจน ตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว แต่ถ้าเราแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีที่มีต่อประชาชนชาวไทย กองหนุนก็จะมาเองขอให้ดำรงความมุ่งหมายเพื่อเติมกองหนุนมากขึ้นให้ได้

ผมเชื่อว่าตู่ทำได้ พวกเราทุกคนก็ทำได้และกำลังทำกันอยู่ ข้อสำคัญที่สุดคือ ขอให้ประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีกับชาวไทย ว่าคนไทยที่ดีคืออย่างไร ขอแสดงความชมเชยและภูมิใจในการกระทำของรัฐบาลลุงตู่ และขอยํ้าว่าที่ตู่พูดว่า จะนำความสุขมาให้คนไทย จะต้องดำรงความมุ่งหมายนี้ให้ได้” เป็นบางส่วนของสาระสำคัญคำอวยพรจากป๋าเปรม ที่มีต่อนายกฯลุงตู่
5145844 แต่ละท่านเมื่อได้ฟังคำอวยพรดังกล่าว อาจแปลความหมายตามมุมมองมุมคิดหรือทรรศนะของตน ย่อมเป็นสิทธิ และอิสระทางความคิดของแต่ละท่านซึ่งผู้เขียนเคารพในดุลพินิจ แต่ในมุมมองของผู้ขียนเห็นว่า นี่เป็นคำอวยพรที่ทรงคุณค่ายิ่งสำหรับนายกฯลุงตู่ เพราะเป็นทั้งพรและคำชี้แนะที่มีนัยสำคัญทางการเมือง ต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ และการที่จะก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางอำนาจและการเมืองของนายกฯลุงตู่อีกด้วย

การกล่าวของป๋าเปรม ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะคนไทย 5 แผ่นดินคนเดียวที่มีชีวิตอยู่ และยังเป็นบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรง ทำงานรับใช้แผ่นดินมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงรัชสมัยของรัชกาลที่ 10 เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดมาแทบทุกตำแหน่งในฐานะสามัญชนที่เป็นข้าราชการ รับใช้ชาติทดแทนคุณแผ่นดิน ในตำแหน่ง ผบ.ทบ., นายกรัฐมนตรี, ประธานองคมนตรี, รัฐบุรุษ และผู้สำเร็จราชการแทนพระมหากษัตริย์ จึงมิใช่คำกล่าวธรรมดาๆ อย่างแน่นอน
558855 ป๋าย่อมทราบดีว่า เป็นการกล่าวกับนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ต่อหน้าบุคคลสำคัญๆ ในบ้านเมือง ในบรรยากาศและสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร ซึ่งจะต้องปรากฏเป็นข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน และได้ยินได้เห็นโดยทั่วกันถึงพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ คำอวยพรและคำแนะนำดังกล่าว จึงบอกอนาคตและทิศทางการเมืองของประเทศ ให้กับท่านนายกฯลุงตู่นำไปคิดและประกอบการพิจารณากำหนดเป็นแนวทางการเมืองของตนและคณะ

โดยป๋าเห็นว่าปัญหากองหนุนรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่มีผลต่อการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล และการที่จะอยู่ในอำนาจทางการเมืองต่อไป ต้องอยู่ด้วยศรัทธาและการสนับสนุนของประชาชน ถือว่าเป็นข้อแนะนำจากอดีตนายกฯที่เป็นอดีต ผบ.ทบ.ผู้มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งจะว่าไปแล้วป๋าก็คือกองหนุนที่สำคัญยิ่งท่านหนึ่ง ที่ให้กำลังใจและสนับสนุนนายกฯ ลุงตู่ตลอดมา

ผู้เขียนหยิบประเด็นนี้มาพูดถึงอีกครั้ง ก็เพราะเป็นที่ชัดเจนว่า นายกฯลุงตู่ ประกาศตนเป็นนักการเมืองที่มาจากอดีตนายทหาร พร้อมที่จะกระโดดสู่สนามการเมือง ในฐานะนายกฯคนนอกตามรัฐธรรมนูญ และบรรยากาศการเมืองในอนาคตของประเทศ มีสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นทางเลือกสำหรับบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง
45454 เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีปัญหาว่านายกฯลุงตู่จะอาศัยและเอากองหนุนจากที่ใดมาสนับสนุนตน เพราะป๋ามองว่าตู่ใช้กองหนุนไปหมดแล้ว หากปราศจากกองหนุนดังกล่าวแล้ว จะอยู่ในอำนาจได้หรือไม่ และจะอยู่ได้นานสักเพียงใด นี่คือคำเตือนอันเป็นโจทย์ข้อสำคัญของนายกฯลุงตู่ ที่ต้องหาคำตอบ เพราะความหมายประเด็นนี้ น่าจะไม่ใช่ความหมายดังที่ท่านนายกฯ แปลความเป็นแน่ ว่ากองหนุนหมายถึงคนที่นายกฯเอามาช่วยทำงานแต่ละด้านหมดแล้ว แล้วกองหนุนที่แท้จริงทางการเมืองนายกฯลุงตู่คือใคร อยู่ที่ใด จะสามัคคีพลังเหล่านั้น เพื่อเป้าหมายและภารกิจคืนความสุขแก่ประชาชนชาวไทยได้อย่างไร?

ความจริงแล้วคำว่า “กองหนุน” ตามที่ป๋ากล่าว ศัพท์ในทางการเมืองเขาเรียกว่า “แนวร่วม” ซึ่งมีความหมายว่า ในเป้าหมายหนึ่งๆ อุดมการณ์ทางการเมืองหนึ่ง หรือแนวทาง นโยบายหนึ่ง เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ใครคือกำลังหลักในภารกิจดังกล่าว ใครคือกำลังสนับสนุนที่สำคัญ ใครคือคนที่เราต้องสามัคคี ไม่ให้เขาเป็นปฏิปักษ์ขัดขวาง และใครคือบุคคลที่ต้องถูกกีดกันให้โดดเดี่ยว เป็นเป้าหมายต้องกำจัด สรุปง่ายๆในทางการเมือง ต้องแยกมิตร แยกศัตรูให้ถูกต้อง อย่าผลักมิตรให้เป็นศัตรู ท่านต้องแสวงหามิตร สามัคคีคนให้ได้มากที่สุด มีศัตรูหรือปฏิปักษ์ให้น้อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนมาร่วมกันผลักดันภารกิจไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย อุดมการณ์ หรือแนวนโยบายที่ดีร่วมกันนั่นเอง
0101 คำถามวันนี้คือ นายกฯลุงตู่ยังดำรงความมุ่งหมายในการคืนความสุขแก่ประชาชนไทยหรือไม่? ท่านมีเป้าหมายยึดกุมอำนาจการปกครองประเทศ เพื่อการปฏิรูปและสร้างอนาคตให้กับประเทศชาติ เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทยหรือไม่ ถ้าใช่ ก็ต้องตีโจทย์เรื่อง “กองหนุน หรือแนวร่วมทางการเมือง” ให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง หากแก้โจทย์ข้อนี้ได้ โอกาสแห่งความสำเร็จหรือชัยชนะก็มิไกลเกินจริง ใครคือมิตร ใครคือศัตรู รัฐบาลนายกฯลุงตู่ จะสามัคคีคนเหล่านั้นอย่างไร เอาไว้วิเคราะห์กันตอนต่อไป

................
คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน|หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ|ฉบับ 3332 ระหว่างวันที่ 18-20 ม.ค.2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9