KTBยึด18จังหวัดศก. เสือปืนไวรับมติครม. ต่อยอดเชื่อมCLMV
ธนาคารกรุงไทยสวมบทเสือปืนไว ชูยุทธศาสตร์“Area Base Financing” ปักธงปล่อยกู้ธุรกิจ 18 จังหวัดเศรษฐกิจพิเศษ สนองนโยบายรัฐ เชื่อมต่อการค้าชายแดนหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลาง 7.5 หมื่นล้านบาท หนุนคลัสเตอร์จังหวัด
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 31 มกราคม 2560 อนุมัติงบกลางปีกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 1.9 แสนล้านบาท ในส่วนนี้มีโครงการตามแผนพัฒนากลุ่ม18จังหวัด จำนวน 7.5 หมื่นล้านบาทด้านธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารแรกที่ประกาศความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการคลังคาดว่างบกลางปีจะหนุนจีดีพีปีนี้โต 3.6%
นายผยง ศรีวนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 2 ยุทธศาสตร์ที่ธนาคารจะโฟกัสในปีนี้ 1.เป็นธนาคารหลักพัฒนาระบบชำระเงินภาครัฐผ่านโครงการ National e-Payment ไปสู่สังคมลดการใช้เงินสด
2.การเป็นกลไกหลักในการปล่อยสินเชื่อทางตรงและอ้อม เช่น กลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงการปล่อยกู้โครงการภาครัฐผ่านผู้ประกอบการผู้รับเหมา กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
นอกจากนี้ธนาคารจะโฟกัสคือช่วยรัฐบาลกระตุ้นในภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำ คือการเป็นจุดหลักเชื่อมการค้าขายผ่านชายแดนผ่านกลุ่มCLMV และในพื้นที่ 18 จังหวัดเขตเศรษฐกิจ โดยใช้กลยุทธ์"Area Base Financing" และจะขับเคลื่อนผ่าน 300 สาขาที่กระจายใน 18 กลุ่มจังหวัดดังกล่าว
ทั้งนี้ 2 ยุทธศาสตร์สะท้อนเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น เนื่องจากโฟกัสกลุ่ม 18 จังหวัดเศรษฐกิจพิเศษ ภายใต้ One Bank เน้นเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เน้นธุรกรรมการค้าจากภูมิภาค CLMV มาไทย และลูกค้าไทยไป CLMV
ขณะเดียวกันต่อ ยอดกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่นคั่ง (Wealth Management) ตามแนวชายแดน โดยเข้าไปช่วยตอบโจทย์ลูกค้าให้มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นผ่านการแนะนำของทีมงานสาขาที่มีอยู่ รวมถึงการต่อยอดจาก Basic Payment เป็น Product Packet
“เพื่อช่วยภาครัฐแม้จะเป็นความเสี่ยง แต่ธนาคารต้องทำโดยต้องบริหารความเสี่ยงให้สมดุล จึงต้องใช้การกระจายตัวแบบ Area Base Financing ที่จะไปในแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาค เพื่อกระจายพอร์ตสินเชื่อ เราไม่ได้มุ่งแข่งขันเพื่อกำไรสูงสุด แต่เป็น 1 ในภารกิจ เพื่อหนุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการเติบโต”นายผยง กล่าว
นายผยง กล่าวว่า ที่ผ่านมาพอร์ตสินเชื่อของธนาคารกระจุกตัวในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดใหญ่ การกระจายพอร์ตสินเชื่อจีงเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความเสี่ยง
ด้านนายลือชัย ชัยปริญญา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อยธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจรายย่อยปีนี้ ธนาคารจะเน้นเดินตามภูมิภาคที่ภาครัฐมากขึ้น เช่น สินเชื่อบ้าน จะเน้นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง
ส่วนลูกค้ามั่งคั่ง (Wealth Management) หากกลุ่มที่ต้องการทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจธนาคารจะสนับสนุนผ่านสินเชื่อ แต่กลุ่มไหนที่ต้องการบริหารเงินให้เติบโตธนาคารจะเน้นจัดพอร์ตลงทุนให้ลูกค้าตามเหมาะสม โดยที่สาขาธนาคารจะบริหารจัดการตามพฤติกรรมลูกค้าเป็นหลัก
นายเชิดชัย ชมภูนุกูลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานเครือข่ายธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า สาขาถือเป็นหนึ่งในช่องทางหลัก เนื่องจากสามารถเข้าถึงและให้บริการลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
กลยุทธ์งานสาขาในปี 2560 ธนาคารจะเน้นเจาะการบริการลูกค้าเป็นเซ็กเมนต์มากขึ้น ซึ่งธนาคารอยู่ระหว่างการศึกษา 6-7 เซ็กเมนท์ ซึ่งรวมถึงฐานลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งที่จะแบ่งได้ 4 เซ็กเมนท์ ได้แก่ กลุ่มพรีเชียส กลุ่มพรีเชียสพลัสไฮเน็ตเวิร์ธอัลตร้า-ไฮเน็ตเวิร์ธ โดยลูกค้าแต่ละเซ็กเมนต์จะมีสินทรัพย์ลงทุนภายใต้การจัดการของธนาคารไม่เท่ากัน และมีความต้องการต่างกัน โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ AUM ประมาณ 6 แสนล้านบาท
"สาขาสามารถให้บริการลูกค้าแล้ว พนักงานยังสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ลูกค้าได้มากขึ้น ปัจจุบันลูกค้า 1 รายมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร 3 อย่าง เช่น เงินฝาก บัตรเดบิต ประกัน ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าว่าลูกค้า 1 รายจะมีอย่างน้อย 4-5 ผลิตภัณฑ์"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560