“คอยน์ดี” ถูกเพิกถอนจากการเป็นที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล

25 พ.ย. 2568 | 12:51 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2568 | 13:13 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท คอยน์ดี จำกัด (Coindee) ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ด้วยเหตุที่หยุดประกอบธุรกิจเกินกว่าเวลาที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด

KEY

POINTS

  • "คอยน์ดี" ถูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล ตามข้อเสนอแนะของ ก.ล.ต.
  • สาเหตุหลักมาจากการหยุดประกอบธุรกิจนานเกินกว่าที่กำหนด หลังจากกรรมการและผู้บริหารส่วนใหญ่ลาออก ทำให้ขาดบุคลากรในการบริหารจัดการ
  • บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจหรือให้บริการลูกค้าได้ โดยพบว่าเว็บไซต์และช่องทางการติดต่อทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้

สืบเนื่องจาก Coindee ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นที่ปรึกษาคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ได้หยุดประกอบธุรกิจเกินกว่าระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) กำหนด

“คอยน์ดี” ถูกเพิกถอนจากการเป็นที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยปรากฏข้อเท็จจริงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงาน ไม่อยู่ในสถานะที่จะบริหารจัดการกิจการ อันเป็นผลให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตได้ และไม่มีช่องทางการติดต่อหรือให้บริการแก่ลูกค้าหรือผู้ลงทุน ซึ่งกระทบต่อการให้บริการอย่างมีนัยสำคัญ

โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัทแจ้งต่อ ก.ล.ต. ว่ากรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหารรวม 5 ราย ได้ลาออกและสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลให้บริษัทเหลือกรรมการเพียง 1 ราย พนักงาน 2 ราย และไม่มีผู้จัดการที่รับผิดชอบการดำเนินงาน

“คอยน์ดี” ถูกเพิกถอนจากการเป็นที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ก.ล.ต. ตรวจพบว่าไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ และไม่มีความเคลื่อนไหวในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงไม่สามารถติดต่อบริษัทได้ทั้งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์และทางโทรศัพท์ตามที่บริษัทเคยแจ้งไว้

คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 พิจารณาแล้วเห็นว่า Coindee หยุดประกอบธุรกิจเกินกว่าเวลาที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด ตามข้อ 2(2) ประกอบข้อ 3(2) และ (3) ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 9/2564 เรื่อง กำหนดเวลาการหยุดประกอบธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตอันเป็นเหตุให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกเพิกถอนการอนุญาตการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564 (ประกาศที่ กธ. 9/2564) จึงได้มีมติเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นที่ปรึกษาคริปโทเคอร์เรนซี และใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นที่ปรึกษาโทเคนดิจิทัล

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า Coindee หยุดประกอบธุรกิจเกินกว่าเวลาที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด ตามข้อ 2(2) ประกอบข้อ 3(2) และ (3) ของประกาศ ที่ กธ. 9/2564 จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นที่ปรึกษาคริปโทเคอร์เรนซี และใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นที่ปรึกษาโทเคนดิจิทัลของ Coindee โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 และให้บริษัทดำเนินการส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568

จากการตรวจสอบข้อมูลจาก Creden Data บริษัท คอยน์ดี จำกัด  หรือ Coindee  พบว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2564 มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน: 120,000,000 บาท มีมูลค่าบริษัท: -1,944,363 บาท (ลดลง -1.62% ของทุน)   จำนวนหุ้น: 12,000,000 หุ้น (ราคาต่อหุ้น -0 บาท/หุ้น) หมวดธุรกิจ: K – กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย กลุ่มธุรกิจ (TSIC): 66191 – บริการที่ปรึกษาการลงทุน  และมีวัตถุประสงค์: ให้บริการที่ปรึกษาการลงทุน   โดยมี กรรมการ (1 คน) คือ นายอภิชาติ สืบเพ็ง

ผลประกอบการ

  1. รายได้รวม: ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 10,591,384 บาท โดยรายได้หลักมาจาก 10,400,000 บาท
  2. ต้นทุนขาย: ในปี 2566 บริษัทมีต้นทุนขายที่ 8,000,000 บาท
  3. กำไร (ขาดทุน) ก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย: ในปี 2566 ขาดทุน 31,801,901 บาท
  4. กำไร (ขาดทุน) สุทธิ: ขาดทุน 31,801,901 บาท ในปี 2566
  5. กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น: ขาดทุน 2.65 บาทต่อหุ้น