KEY
POINTS
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยรายงาน “ภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายเดือน” ประจำเดือนกันยายน 2568 พบว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.045 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.99% จากเดือนก่อนหน้า แม้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันชะลอลงเหลือ 2.50 พันล้านบาท (ลดลง 16.63%) แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว
ขณะที่จำนวนบัญชีผู้ลงทุนในระบบอยู่ที่ 2.92 ล้านบัญชี และมีบัญชีที่ยังเคลื่อนไหว (Active) จำนวน 2.18 แสนบัญชี ลดลง 5.37% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ด้านโครงสร้างผู้ลงทุนพบว่า นักลงทุนรายย่อยในประเทศและต่างประเทศครองสัดส่วนรวมกว่า 83% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด แบ่งเป็นรายย่อยต่างประเทศ 42% รายย่อยในประเทศ 41% ส่วนนิติบุคคลในประเทศมีสัดส่วน 14% และนิติบุคคลต่างประเทศ 2% สะท้อนว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังคงขับเคลื่อนด้วยแรงลงทุนจากรายย่อยเป็นหลัก
ส่วนภาพรวม ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ยังคงขยายตัว แม้การซื้อขายจะชะลอลง โดยมีมูลค่ารวม (Market Cap) อยู่ที่ 4.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 136.7 ล้านล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 32.77 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 3.44% จากเดือนสิงหาคม ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 12.61% เหลือ 30.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท
สำหรับผลตอบแทนรายปี (YoY) ของเหรียญหลักยังคงโดดเด่น โดยเฉพาะ XRP ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 365.57% ต่อปี ขณะที่บิทคอยน์ให้ผลตอบแทน 91.49% และอีเธอเรียม 68.79% ซึ่งยังเหนือกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิม เช่น ทองคำ หรือดัชนีหุ้นโลก
ทั้งนี้ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยมีเหรียญที่ให้บริการซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. รวมทั้งสิ้น 321 เหรียญ โดยมีผู้ให้บริการหลัก ได้แก่ Bitkub, Satang, Zipmex, Upbit และ Bitazza ซึ่งยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
ภาพรวมเดือนกันยายนสะท้อนว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในไทยและทั่วโลกอยู่ในช่วง “ฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง” ท่ามกลางแรงซื้อของนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยที่ยังคงเชื่อมั่นในเหรียญหลัก โดยเฉพาะบิตคอยน์และอีเธอเรียมที่ยังครองส่วนแบ่งและความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกอย่างเหนียวแน่น