KEY
POINTS
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในสัปดาห์นี้ (11-14 พ.ย. 68) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด และมีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
โดยนักลงทุนยังคงเผชิญแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี AI ในสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่จากการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา หลังดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 8.27%
ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งจะทยอยสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับการรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 จึงคาดการณ์ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280-1,350 จุด
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อาทิ
กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (8M68) มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยอยู่ที่ 60,245.93 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
การจัดเก็บภาษีนำเข้าใหม่ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป กรมศุลกากรจะเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่สั่งจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้รัฐไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
การส่งออกเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับประมาณการการเติบโตของมูลค่าการส่งออกปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 9.5–10.5% จากเดิมที่คาดไว้ต่ำกว่านี้ พร้อมผลักดันนโยบายสนับสนุน SME และสินค้า Made in Thailand เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจ
ประกอบกับ กกร. ลุ้น Quick Big Win หนุนเศรษฐกิจไทยปี 2568 เติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน 2.5% ปรับประมาณส่งออกโตดีกว่าที่คาด 9.5-10.5% ชี้เหตุส่งออกทองคำสูง แต่ไม่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจ
การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ฟื้นตัว โดย ADP รายงานว่าการจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 22,000 ตำแหน่ง สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากลดลงในเดือนก่อนหน้า
และ จีนประกาศระงับการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม 24% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี แต่จะยังคงเก็บภาษีในอัตรา 10% ต่อไป โดยเป็นมาตรการที่เกิดขึ้นหลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำลงทุนในหุ้นที่ปรับอานสิสงส์จากการ MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นที่มีการปรับน้ำหนักในดัชนีรอบใหม่ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568
โดยในรอบนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในดัชนี MSCI Thailand Index ขณะที่ดัชนี MSCI Global Small Cap มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ โดยหุ้นที่มีการนำเข้าคำนวณได้แก่ M ส่วนหุ้นที่นำออกจากการคำนวนดัชนี ได้แก่ AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP ซึ่งส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่จะปรับเข้า และระวังแรงขายหุ้นที่ถูกปรับออก