หุ้นไทยวิ่งขึ้นต่อ กรอบ 1,315 - 1,330 จุด รับยอดส่งออกไทยยังแข็งแกร่ง

28 ต.ค. 2568 | 02:28 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2568 | 02:28 น.

โบรกคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,315 - 1,330 จุด โดยยอดส่งออกไทยเดือน ก.ย. แข็งแกร่งกว่าคาด ผสานกับความคาดหวังบวกต่อผลประกอบการ,การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน และการลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เป็นปัจจัยหนุน

KEY

POINTS

  • คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,315 - 1,330 จุด
  • ปัจจัยหนุนหลักมาจากยอดส่งออกเดือน ก.ย. ที่ขยายตัว 19.0% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก
  • ตัวเลขส่งออกที่ดีส่งผลให้ดุลการค้ากลับมาเกินดุล และคาดว่ายอดส่งออกทั้งปีอาจเติบโตได้ถึง 9.4% - 10.4% สูงกว่าเป้าของกระทรวงพาณิชย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (28 ต.ค. 68) ว่า คาดการเคลื่อนไหวของ SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,315 - 1,330 จุด โดยยอดส่งออกไทยเดือน ก.ย. แข็งแกร่งกว่าคาด ผสานกับความคาดหวังบวกต่อผลประกอบการ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน และการลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เป็นปัจจัยหนุน 

โดยวานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดการส่งออกไทย เดือน ก.ย. ที่ 3.1 หมื่นล้านเหรียญ ขยายตัว 19.0% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดีกว่าตลาดคาดที่ +7.2% โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ไก่แปรรูป, กุ้งแช่เย็น, น้ำตาลทราย, ไขมันจากพืชและสัตว์, ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี, โทรศัพท์, คอมพิวเตอร์, หม้อแปลง, อัญมณี, รถยนต์, เครื่องจักรกล

ในขณะที่สินค้าที่หดตัว เช่น ผลไม้, ข้าว, ยางพารา ส่วนด้านตัวเลขนำเข้าขยายตัว 17.2% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่งผลให้ดุลการค้าเดือน ก.ย. ของไทยกลับมาเกินดุล 1.27 พันล้านเหรียญ โดยสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร กลับมาขยายตัวรอบ 3 เดือน, สินค้าอุตสาหกรรมยังขยายต่อเนื่อง 18 เดือนติดต่อกัน ขณะที่สินค้าเกษตรหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

โดยหากประเมินช่วงที่เหลือของปีอีก 3 เดือน ในกรณีฐานที่ระดับส่งออก 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้ปีนี้ยอดส่งออกไทยจะเติบโตราว +9.4% ถึง +10.4% สูงกว่าเป้าของกระทรวงพาณิชย์ที่คาดไว้เพียงการเติบโต 2-3% ในปีนี้

ส่วนปัจจัยภายนอก ตลาดยังมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในสัปดาห์นี้ ผสานกับการรายงานงบของกลุ่มเทคโนโลยีสำคัญในสัปดาห์นี้ที่คาดจะมีโมเมนตัมเชิงบวก

ดังนั้น ด้านกยุทธ์ยังมองจังหวะย่อเป็นโอกาสทยอยสะสมโดยเน้นหุ้นที่คาดหวังผลประกอบการเชิงบวก และมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ

ปัจจัยที่ต้องจับตา

28 ต.ค.

  • การประชุม ครม.

29 ต.ค.

  • การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

30 ต.ค.

  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย
  • GDPไตรมาส 3/2568 ของสหรัฐฯ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน
  • GDP ไตรมาส 3/2568 ของกลุ่มยูโรโซน
  • การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
  • การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

หุ้นเด่นแนะนำ

GFPT ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์  13.30 บาท

  • คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 28% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน แรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบทั้งถั่วเหลืองและข้าวโพดที่ย่อตัว ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดขยับขึ้น +300bps สู่ระดับ 19.7%
  • ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่น่าดึงดูด โดยเทรดเพียง PE Ratio 5.7 เท่า และ PBV 0.6 เท่า น่าทยอยสะสม