โบรกชี้แรงหนุนมาตรการรัฐ-ท่องเที่ยวฟื้น ดันหุ้นไทยพยุงตัวเหนือ 1,330 จุด

27 ต.ค. 2568 | 23:00 น.

กูรูส่องดัชนี SET Index สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,290 - 1,330 จุด รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดีด รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจอัดงบ 4 ล้านล้าน ชี้หุ้นเครื่องดื่มและค้าปลีกเด่น หลังภาครัฐปลดล็อกขายแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00–17.00 น.ได้

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการ "คนละครึ่งพลัส", "เที่ยวดีมีคืน" และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ
  • ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลจากยุโรป หลังมีการเพิ่มเที่ยวบินตรงและเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัว
  • ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยพยุงดัชนี

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในสัปดาห์นี้ (28 - 31 ต.ค. 68) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,290 - 1,330 จุด

โดยได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนกลับมารุนแรงอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลต่อเสถียรภาพด้านพลังงาน

อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ได้แก่ โครงการ 'คนละครึ่งพลัส' และ 'เที่ยวดีมีคืน' ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศในช่วงปลายปี ประกอบกับกรมบัญชีกลางได้ปฏิรูปกระบวนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เพื่อเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณประจำปีและงบเบิกเหลื่อมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

และล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า 'Airline Focus Strategy' ปลุกท่องเที่ยวระยะไกลคึกคัก เผยอานิสงส์เศรษฐกิจยุโรปฟื้น - สายการบินเพิ่ม 5 เส้นทางบินตรงยุโรป - ไทย ดันตลาดคึกคัก

ด้านกระทรวงพลังงานเตรียมเปิด 4 โครงการสำคัญภายในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ โซลาร์ฟาร์มชุมชน, โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร, โซลาร์บนหลังคาบ้าน และระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานรัฐ คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท พร้อมผลักดันพลังงานสะอาดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศยังคงน่าจับตา จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาด GDP ไตรมาส 3 ปี 2568 ขยายตัว 1.5% ก่อนชะลอลงเหลือ 1.3% ในไตรมาส 4 แม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เช่น “คนละครึ่งพลัส” และ “เที่ยวดีมีคืน” ซึ่งช่วยเพิ่ม GDP ราว 0.2–0.3% โดยประมาณการทั้งปีอยู่ที่ 2.2% ขณะที่คาดว่า GDP ปี 2569 จะโตเพียง 1.6% จากแรงกดดันเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ

ปัจจัยในประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง

  • สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
  • วันที่ 31 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย 

ปัจจัยต่างประเทศที่ยังเฝ้าติดตาม

  • วันที่ 28 ต.ค. สหรัฐฯรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.และราคาบ้านเดือนส.ค.
  • วันที่ 29 ต.ค. สหรัฐฯรายงานสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • วันที่ 28-29 ต.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ครั้งที่ 7/68 ซึ่งจะมีมติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (FED Fund Rate)
  • วันที่ 30 ต.ค. 'ทรัมป์' ผู้นำสหรัฐฯ และ 'สี จิ้นผิง' ผู้นำจีนเตรียมพบกันในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่เกาหลีใต้

ด้านนายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเสริมว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกรณีที่ภาครัฐประกาศปลดล็อกให้ร้านอาหารสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. ซึ่งเดิมเป็นช่วงเวลาห้ามขายตามกฎหมาย

ส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มและค้าปลีก อาทิ CBG, MENA, BJC, CPALL, CPAXT, TNP, KK และ MOTHER เป็นต้น โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารที่มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนสูง