PLUS เร่งเครื่องโกยออเดอร์ส่งออกสหรัฐฯ มั่นใจยอดขายโต 10-15% เข้าเป้า

13 ต.ค. 2568 | 00:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2568 | 03:30 น.

PLUS เดินเกมรุกส่งออกน้ำมะพร้าว บุกตลาดอเมริกาใต้รับดีมานด์โตต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปี 68 โต 10-15% รักษามาร์จิ้น 20%

KEY

POINTS

  • PLUS คงเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2568 ไว้ที่ 10-15% หรือประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการน้ำมะพร้าวในตลาดต่างประเทศ
  • ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกหลักที่สำคัญ มีสัดส่วนยอดขายกว่า 40-50% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนยอดขายรวมของบริษัท
  • บริษัทมีแผนเจรจาปรับขึ้นราคาขายปลีกในตลาดสหรัฐฯ ประมาณ 10% และทำสัญญาระยะยาวกับคู่ค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพของรายได้และลดความเสี่ยง

นายกิตติ วชิรจิรากร รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานบริษัทในช่วงไตรมาส 4/2568 คาดว่ายังคงมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคน้ำมะพร้าวที่ยังคงมีอยู่มาก

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในแถบอเมริกาตอนใต้เพิ่มเติม คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในปัจจุบันบริษัทมีการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวไปยัง 7 ภูมิภาค 111 ประเทศทั่วโลก โดยน้ำหนักส่วนใหญ่กว่า 40 - 50% อยู่ในตลาดอเมริกาตอนเหนือ ขณะที่ 35 % อยู่ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง 8% และกลุ่มยุโรปอีกประมาณ 8 - 9% ของยอดขายทั้งหมด

ไป : FB / BD / X (ตั้งเวลายิงข่าว 07.30 น.)  https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/641259  คำในปก : PLUS เร่งเครื่องโกยออเดอร์ส่งออกสหรัฐฯ มั่นใจยอดขายโต 10-15% เข้าเป้า  แคปชั่น : \'กิตติ วชิรจิรากร\' รองกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส หรือ PLUS เผยกับ \'ฐานเศรษฐกิจ\' ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/68 จะยังเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคน้ำมะพร้าวที่สูงในตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ และเอเชียที่ยังขยายตัวดี  ปัจจุบัน PLUS ส่งออกไปกว่า 11 ประเทศ โดยสัดส่วนรายได้หลักกว่า 80% มาจากตลาดอเมริกาและเอเชีย ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2568 โต 10 - 15% แตะระดับ 1,500 - 1,600 ล้านบาท พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 15- -20%  ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าขยายตลาดใหม่ใน “อเมริกาใต้” เพื่อสร้างฐานรายได้ระยะยาว และเตรียมเจรจาปรับราคาขายปลีกในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นราว 10% รวมถึงทำสัญญาระยะยาวกับพันธมิตรหลัก เพื่อรักษาเสถียรภาพรายได้และลดความผันผวนของต้นทุน  นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสพัฒนา Co-Brand กับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นต่างประเทศ เพื่อขยายผลิตภัณฑ์ใหม่โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนการตลาดเอง  ด้านผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ระดับ 19% บริษัทมองว่า “ไม่กระทบโดยตรง” ต่อผลประกอบการ เนื่องจากต้นทุนภาษีตกอยู่ที่ลูกค้าต่างประเทศ ขณะที่การปรับลดภาษีจาก 36% เหลือ 19% กลับเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายและกำลังซื้อของผู้บริโภค  โดย PLUS เตรียมกลยุทธ์ด้านขนส่งและพันธมิตรโลจิสติกส์รองรับไว้แล้ว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและความต่อเนื่องของรายได้ในตลาดส่งออกหลัก

ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10-15% หรือแตะที่ระดับประมาณ 1,500 - 1,600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,430 ล้านบาท โดยมองว่าความต้องการบริโภคน้ำมะพร้าวยังมีการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ทำให้บริษัทยังได้รับออเดอร์ใหม่ๆ จากทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าการเติบโตของยอดขายรวมในปี 2568 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15 - 20% และ 5 - 10% ตามลำดับ

PLUS เร่งเครื่องโกยออเดอร์ส่งออกสหรัฐฯ มั่นใจยอดขายโต 10-15% เข้าเป้า

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมองการทำสัญญาระยะยาว (Long-Term Contract) กับพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของรายได้ และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดแต่ละประเทศผ่านการขยายตลาดในภูมิภาคอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและเปิดโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Co-Brand ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น (Local Partner) ในต่างประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อดีคือบริษัทไม่ต้องลงแรงไปทำการตลาดเอง สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับบริษัท อีกทั้งยังช่วยให้พาร์ทเนอร์ขยาย Secment ได้เพิ่มอีกด้วย

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2569 นั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนงานใหม่เพิ่มเติม โดยเดิมวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะนำเรื่องเสนอต่อบอร์ดบริหารในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้

ด้านกำลังการผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้วในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านขวดต่อปี และเครื่องดื่มบรรจุขวด PET ประมาณ 250 ล้านขวดต่อปี เมื่อรวมทั้งปีคาดว่ากำลังการผลิตจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 65% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่มีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตเครื่องดื่ม

PLUS เร่งเครื่องโกยออเดอร์ส่งออกสหรัฐฯ มั่นใจยอดขายโต 10-15% เข้าเป้า

ภาษีสหรัฐฯ ไม่กระทบ

ประเด็นการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อประเทศไทยที่ระดับ 19% นั้น มองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของบริษัท แม้ว่าสัดส่วนยอดขายกว่า 99% ของบริษัทจะมาจากการส่งออก แต่ผลจะตกกระทบโดยตรงกับลูกค้าต่างประเทศมากกว่า

แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้น่ากังวลนัก เนื่องจากด้วยค่าขนส่งสินค้า (Freight) ปรับตัวสูงขึ้นมากตั้งแต่ช่วงวิกฤตโรคระบาด แม้ในปัจจุบันจะปรับตัวลดลงแล้ว แต่ลูกค้าก็ยังมีกำไรจากส่วนต่างค่าระวางสินค้ามาชดเชยได้อยู่

ทั้งนี้ บริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอกใจและได้มีการวางแผนส่งเสริมการขาย รวมถึงการวางกลยุทธ์หาผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่หลากหลาย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการลงต้นทุนร่วมด้วย

การที่สหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยจาก 36% เหลือ 19% ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยบริษัทได้ประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าและเตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้ว