นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดมุมมองต่อ มาตรการ 'คนละครึ่งพลัส' ว่า หลังจากที่ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผย ครม. เห็นชอบโครงการ “คนละครึ่งพลัส” งบรวม 4.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามคาดว่าสั่งฟู้ดเดลิเวอรี่ได้
โดยวงเงินต่อราย ประชาชนที่อยู่ในระบบภาษี 2,400 บาทต่อราย (รัฐสมทบ 60% และประชาชน 40%), ประชาชนทั่วไป 2,000 บาทต่อราย (รัฐสมทบ 50% และ ประชาชน 50%) จ่ายได้ไม่เกินวันละ 200 บาท
Timeline 'คนละครึ่งพลัส'
- 15 ต.ค. 2568 : เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
- 20-26 ต.ค. 2568 : เปิดให้ประชาชนลงทะเบียน
- 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 2568 : ระยะเวลาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งพลัส สำหรับซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
- 7 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2568 : สำหรับการซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร หรือฟู้ดเดลิเวอรี่ แพลตฟอร์ม ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เวลา 06.00-21.00 น.
ทั้งนี้ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน ไม่ได้สิทธิคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะเติมเงินให้ครั้งเดียว 1,700 บาท จากเดิม 300 บาท รวมเป็น 2,000 บาท ใช้ได้ พ.ย. - ธ.ค. ใช้จ่ายตามวงเงินที่ซื้อจริง
เปิดโผหุ้นรับอานิสงส์
จากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ทางฝ่ายมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อมาตรการ 'คนละครึ่งพลัส' โดยหุ้นได้รับประโยชน์ ได้แก่
กลุ่มค้าปลีก :
- CPAXT (ซื้อ/เป้า 25.00 บาท) และ BJC ได้รับประโยชน์มากสุดเนื่องจากร้าน Traditional Trade ซึ่งเป็นจุดหมายหลักในการใช้คนละครึ่งพลัส ซื้อสินค้าจากที่นี่
- TNP เป็นร้านค้าท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการในครั้งก่อน โดยมีสาขา 51 สาขาในภาคเหนือ
กลุ่ม food & beverage : ได้รับประโยชน์จากการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น
- CBG (ซื้อ/เป้า 79.00 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic branded own 32% ของรายได้รวม
- OSP (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic beverage 53% ของรายได้รวม
- SAPPE (ถือ/เป้า 36.50 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic ที่ 31% ของรายได้รวม
- ICHI สัดส่วนรายได้ domestic 90% ของรายได้รวม
- SNNP (ซื้อ/เป้า12.50 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic 81% ของรายได้รวม โดยเป็น MT 68% และ TT 32%
กลุ่มสินค้าอุปโภค :
- NEO (ถือ/เป้า 22.40 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic 90% ของรายได้รวม
- OSP (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) สัดส่วนรายได้ domestic ประมาณ 10% ของรายได้รวม
กลุ่มร้านอาหาร :
- MAGURO (ซื้อ/เป้า 33.00 บาท) คาดได้ประโยชน์จากการสั่ง food delivery โดยมีร้านอาหารในเครือ 7 แบรนด์
- M, ZEN และ OKJ คาดได้ประโยชน์จากการสั่ง food delivery ผ่าน food delivery platform
กลุ่ม Packaging :
- EPG (ซื้อ/เป้า 4.20 บาท) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและฟู้ดเดลิเวอรี่
- KTB (ซื้อ/เป้า 27.00 บาท) ได้ประโยชน์จากการใช้แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
อย่างไรก็ตาม มาตรการ 'คนละครึ่งพลัส' ถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่าย และเมื่อเปิดให้สั่ง 'ฟู้ดเดลิเวอรี่' ได้เป็นครั้งแรก ยิ่งขยายฐานผู้ใช้สู่กลุ่มคนเมืองและวัยทำงาน
รวมถึงเพิ่มโอกาสกระจายรายได้ให้ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการขนส่งอาหาร ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่ามาตรการนี้จะหนุนกำไรกลุ่มบริโภคฟื้นตัวในระยะสั้น พร้อมสร้าง sentiment เชิงบวกต่อตลาดโดยรวมส่งท้ายปีนี้