KEY
POINTS
นักลงทุนอาจเคยเห็น หรือได้ยินเรื่องการประชุม AGM - EGM ที่เหล่าผู้บริหารเคยกล่าวถึงกันบ่อยๆ แต่รู้หรือไม่ว่า AGM - EGM แตกต่างกันอย่างไร และมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ทำไมจึงจะต้องมีการจัดขึ้นและต้องแจ้งต่อผู้ถือหุ้นทุกครั้ง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้อธิบายถึงความแตกต่างและความสำคัญในเรื่องดังกล่าวว่า การจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเป็นไปเพื่อให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าของบริษัท ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ นอกเหนือจากที่ได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการบริษัทบริหารงาน เช่น การอนุมัติงบการเงินประจำปี การพิจารณาจ่ายปันผล การแต่งตั้งกรรมการ เป็นต้น
แต่บริษัทจดทะเบียนยังมีหน้าที่ที่จะต้องเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าวในการประชุมสามัญประจำปี นอกจากนี้ กรณีที่บริษัททำรายการที่มีนัยสำคัญที่อาจกระทบต่อฐานะการเงิน และผลดำเนินงานของบริษัท หรือเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ ผู้ถือหุ้นจะต้องมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องดังกล่าวด้วย
โดยคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิเข้าประชุม หรือ Record Date (RD) และวันปิดสมุดทะเบียน หรือ Book Closing Date (BC) ซึ่งรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น เช่น สิทธิรับเงินปันผล สิทธิการได้รับหุ้นเพิ่มทุน เป็นต้น โดยการกำหนด RD และ BC นั้น บริษัทจะต้องแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น
การประชุมสามัญประจำปีนั้นจะมีประเด็นในการพิจารณาต่าง ๆ ดังนี้ พิจารณารับรองรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งก่อน, พิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปี, พิจารณาจัดสรรกำไร และการจ่าย หรืองดจ่ายเงินปันผล, พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระ, พิจารณากำหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการบริษัท, พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของบริษัท และค่าสอบบัญชีเป็นต้น
ขณะที่การประชุมวิสามัญนั้นจะมีประเด็นพิจารณาต่างๆ ดังนี้ พิจารณารับรองรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งก่อน และพิจารณาวาระสำคัญตามที่คณะกรรมการเสนอต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีการระบุในหนังสือเชิญประชุมล่วงหน้า และจะเป็นประเด็นที่สำคัญที่นอกเหนือจากการประชุมสามัญประจำปี เช่น การขออมติเพื่อควบรวมกิจการ เพิกถอนกิจการ หรือมีการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น เป็นต้น
การประชุมผู้ถือหุ้น” ทั้งแบบ สามัญประจำปี (AGM) และ วิสามัญ (EGM) คือสิทธิสำคัญของนักลงทุนในฐานะเจ้าของบริษัทจดทะเบียน ที่เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมกำหนดทิศทางธุรกิจและผลตอบแทนของตนเอง AGM จัดขึ้นปีละครั้งเพื่อพิจารณาเรื่องหลัก เช่น อนุมัติงบการเงิน จ่ายปันผล หรือเลือกกรรมการ
ขณะที่ EGM จะจัดเมื่อมีวาระพิเศษ เช่น ควบรวมกิจการ หรือทำธุรกรรมสำคัญ การรู้ทันกำหนดประชุมและวัน Record Date จึงช่วยให้นักลงทุนใช้สิทธิได้ครบ ไม่พลาดโอกาสในการมีส่วนร่วมและปกป้องผลประโยชน์ของตนในบริษัทที่ลงทุนอยู่