วันนี้ (วันที่ 18 เมษายน 2568) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ในวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) วาระสำคัญในการประชุมผู้ถือหุ้นการบินไทย จะประกอบไปด้วย 3 วาระ ได้แก่
โดยวาระที่ 1 การบินไทยจะขออนุมัติกำหนดจำนวนบอร์ด รวม 12 คน เป็นการขออนุมัติผู้ถือหุ้นแต่งตั้งบอร์ดใหม่ 9 คน เมื่อรวมกับกรรมการปัจจุบัน 3 คน ที่ยังไม่หมดวาระ ได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และพล.อ.อ.อำนาจ จีระมณีมัย จะส่งผลให้บอร์ดการบินไทยชุดใหม่ มีทั้งหมด 12 คน
ส่วนวาระที่ 2 ขออนุมัติแต่งตั้งบอร์ดใหม่ จำนวน 9 คน ได้แก่ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ
รวมถึงนายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล อัยการพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด นายสัมฤทธิ์ สำเนียง อดีตผู้บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม นายชาติชาย โรจนรัตนางกูร ตัวแทนจาก สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด และ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการบินไทย
ทั้งนี้ภายหลังจากบริษัทฯ ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว คณะกรรมการชุดนี้ ก็จะไปเลือกประธานบอร์ดต่อไป ซึ่งการบินไทยจะดำเนินการจดทะเบียนการเปลี่ยนแปลงจำนวนกรรมการ และการแต่งตั้งจดทะเบียนกรรมการใหม่ ก่อนที่จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการต่อไป
รวมทั้งการบินไทยยังคาดว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการภายในไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้บริหารแผนฟื้นฟูมีมติอนุมัติการลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ของหุ้นของบริษัทฯ จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1.30 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมทางบัญชีของบริษัทฯ ให้ใกล้เคียงศูนย์มากที่สุด
ทำให้ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ลดลงจากจำนวนประมาณ 283,033 ล้านบาท เป็นจำนวนประมาณ 36,794 ล้านบาท และทำให้ผลขาดทุนสะสมลดลงเหลือ 180 ล้านบาท
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้หรือบริษัทฯ แต่อย่างใด และไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมในงบการเงินของบริษัทฯ อีกทั้ง ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าบริษัทหรือมูลค่าต่อหุ้นเนื่องจากมูลค่าต่อหุ้นไม่ได้ถูกกำหนดจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) และเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอนาคตให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
รวมถึงเจ้าหนี้จากการแปลงหนี้เป็นทุน และเป็นการเพิ่มความน่าสนใจของหุ้นให้แก่นักลงทุนภายหลังการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หรือหากในอนาคต บริษัทฯ ต้องการที่จะระดมทุนเพิ่มเติมโดยการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำมาใช้ในการประกอบกิจการหรือชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ ก็สามารถดำเนินการได้โดยไม่ติดขัดเรื่องผลขาดทุนสะสมซึ่งเป็นเพียงตัวเลขทางบัญชีอีกต่อไป
ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามงบเฉพาะกิจการกลับมาเป็นบวกที่ 45,495 ล้านบาท จากที่เคยติดลบ 43,352 ล้านบาทในปี 2566 หลักๆ เกิดมาจากกำไรจากการดำเนินงานในระหว่างปี และผลจากการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ
ส่งผลให้การบินไทยสามารถบรรลุอีกหนึ่งเงื่อนไขผลสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการ และยังส่งผลให้เหตุแห่งการเพิกถอนหุ้นตามนิยามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหมดไป และทำให้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าออกจากแผนฟื้นฟูกิจการและกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ