FETCO ชี้ความเชื่อมั่นนักลงทุน ‘ร้อนแรง’หวังมาตรการรัฐหนุนเงินทุนไหลเข้า

08 ต.ค. 2568 | 05:55 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2568 | 07:09 น.

FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงอยู่เกณฑ์ ‘ร้อนแรง’ นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินทุนไหลเข้า ด้านปัจจัยฉุดคือ ความกังวลต่อวินัยการคลังและสถานการณ์นำเข้า-ส่งออก

KEY

POINTS

  • ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ที่ระดับ 153.62
  • นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นที่สำคัญที่สุด
  • ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นมากที่สุดคือความกังวลต่อวินัยทางการคลังของประเทศ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนกันยายน 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 22 - 30 กันยายน 2568)  พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ที่ระดับ 153.62

นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อวินัยการคลัง รองลงมาคือสถานการณ์การนำเข้าและส่งออก และสถานการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน

ผลสำรวจโดยสรุปดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน สำรวจในเดือนกันยายน 2568

  • ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2568) อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” (ช่วงค่าดัชนี 120-159) ที่ระดับ 153.62
  • ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่และนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” 
  • หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพาณิชย์ (COMM)   
  • หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดสื่อสิ่งพิมพ์ (MEDIA)
  • ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
  • ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อวินัยการคลัง

ผลสำรวจ ณ เดือนกันยายน 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับเพิ่ม 35.4% อยู่ที่ระดับ 130.69 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับเพิ่ม 19.7% อยู่ที่ระดับ 155.56 อยู่ที่ระดับ 87.33 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่ม 28.2% อยู่ที่ระดับ 166.67 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศปรับเพิ่ม 25.0% อยู่ที่ระดับ 166.67

ตลอดเดือนกันยายน 2568 ดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่ FED ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%  รวมถึง ความชัดเจนและแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ

และคำเตือนของ Fitch ที่ได้ปรับลดมุมมอง Outlook ของประเทศไทยจาก “Stable” เป็น “Negative” สร้างความกังวลต่อนโยบายทางการเงินและเสถียรภาพงบประมาณของรัฐ โดย SET Index ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ปิดที่ 1,274.17 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.46% จากเดือนก่อนหน้า

ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 43,028 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11,859 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิรวม 96,243 ล้านบาท 

ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ นโยบายการเงินของ FED  หากมีการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะหนุนสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย การชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมส่งออกของยุโรป ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังธนาคารแห่งชาติจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารกว่า 5 แสนล้านหยวนผ่าน Reverse Repo อายุ 7วัน และ 14 วัน รวมถึงความผันผวนของราคาทองในตลาดโลก

ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และความชัดเจนในการแถลงงบประมาณประจำปีที่จะมีผลต่อการประเมินความเสี่ยงเครดิตและความเชื่อมั่นนักลงทุน และความผันผวนของค่าเงินบาทซึ่งกดดันกลุ่มส่งออก