อย่ายึดติดเป้าหมาย: โฟกัสที่กระบวนการเพื่อความสำเร็จในการลงทุน

03 ต.ค. 2568 | 23:45 น.

อย่ายึดติดเป้าหมาย: โฟกัสที่กระบวนการเพื่อความสำเร็จในการลงทุน คอลัมน์: Investing Tactic โดย ณัช เรือนเพ็ชร์ (โค้ชณัช) ผู้ชนะการแข่งขัน TFEX Algorithmic Trading Workshop & Competition 2017 และวิทยากรพิเศษโครงการ SITUP

ไม่ยึดติดเป้าหมายในการลงทุน: โฟกัสที่กระบวนการเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

การตั้งเป้าหมายในด้านการลงทุน เช่น การเพิ่มมูลค่าพอร์ตหรือกำหนดเปอร์เซ็นต์กำไร เป็นสิ่งที่นักลงทุนหลายคนทำ เพราะช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบการณ์กว่า 10 ปีในตลาดหุ้น ผมพบว่าการยึดติดกับเป้าหมายมากเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ด้วยเหตุผลดังนี้:

1. ผู้ชนะและผู้แพ้มีเป้าหมายเดียวกัน

ในตลาดหุ้นที่มีความผันผวนรายวัน ทุกคนที่เข้ามาย่อมมีเป้าหมายเดียวกัน คือการสร้างกำไรที่มั่นคงและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม สถิติชี้ชัดว่ามีนักลงทุนเพียง 10% เท่านั้นที่สามารถทำกำไรได้ ส่วนอีก 90% ขาดทุน

นี่แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายไม่ใช่ปัจจัยหลักที่กำหนดความสำเร็จในตลาดหุ้น เช่นเดียวกับในสนามสอบที่ทุกคนล้วนอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างปรารถนาเหรียญทอง สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ไม่ได้ถูกกำหนดโดยเป้าหมาย แต่ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวและการลงมือทำ

2. เป้าหมายทำให้เราขาดความสุข

หากเรายึดติดกับเป้าหมายมากเกินไป เมื่อความก้าวหน้ายังห่างไกลจากจุดที่ตั้งไว้ เราจะรู้สึกเครียดและไม่มีความสุข ยิ่งในช่วงตลาดขาลง เป้าหมายที่ดูไกลออกไปเรื่อยๆ จะสร้างแรงกดดันให้เราจนมองไม่เห็นหนทางแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้า

การมุ่งเน้นที่เป้าหมายมากเกินไปอาจทำให้เราสูญเสียสมาธิและความชัดเจนในการตัดสินใจ ส่งผลให้เราตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น

3. เป้าหมายทำให้เราหลงตัวเอง

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเราบรรลุเป้าหมายแล้ว เราอาจหลงตัวเองและเริ่มผ่อนคลายเกินไป เช่น หากเราสามารถเพิ่มมูลค่าพอร์ตจาก 1 ล้านบาทเป็น 5 ล้านบาทได้ภายในปีเดียว เราอาจรู้สึกว่าตัวเองเก่งและประมาทในขั้นตอนวิเคราะห์หุ้น

ความหละหลวมนี้อาจนำไปสู่ความผิดพลาด เช่น การลงทุนที่ขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบ หรือการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป สุดท้ายตลาดหุ้นจะลงโทษเราด้วยการขาดทุน

อย่ายึดติดเป้าหมาย: โฟกัสที่กระบวนการเพื่อความสำเร็จในการลงทุน

ทางออก: โฟกัสที่กระบวนการแทนเป้าหมาย

แทนที่จะยึดติดกับตัวเลขเป้าหมาย ลองเปลี่ยนมาโฟกัสที่กระบวนการ เช่น:

  • จะเลือกหุ้นอย่างไรให้มีคุณภาพมากขึ้น
  • จะตัดขาดทุนอย่างไรให้เสียหายน้อยที่สุด
  • จะถือหุ้นเติบโตนานแค่ไหนโดยไม่ขายเร็วเกินไป
  • ควรถือหุ้นกี่ตัวเพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างเหมาะสมโดยไม่เสี่ยงเกินไป

กระบวนการที่ดีจะช่วยให้เราสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และเมื่อพัฒนาวิธีการของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายก็จะบรรลุผลไปโดยปริยาย

บทเรียนจากประสบการณ์ส่วนตัว 

ผมเคยใช้ชีวิตแบบโฟกัสที่เป้าหมายอย่างสุดโต่ง หากยังไม่ถึงเป้าหมายก็จะรู้สึกกระวนกระวายและอยากทำบางอย่างเพื่อให้เป้าหมายเข้าใกล้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ผมก็กลัวว่าถ้าไม่มุ่งเป้าหมายอย่างจริงจัง ชีวิตจะเฉื่อยชาและล้มเหลว 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมพบว่า สมดุลระหว่างเป้าหมายและกระบวนการ คือคำตอบ ผมยังคงตั้งเป้าหมายในการทำกำไรจากการลงทุน แต่ให้เวลาส่วนใหญ่กับการพัฒนากระบวนการในแต่ละวัน เช่น การศึกษาหุ้น วิเคราะห์ตลาด และปรับปรุงแผนการลงทุน 

ผลลัพธ์ที่ได้คือชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น ความเครียดลดลง และผลลัพธ์การลงทุนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

สรุป 

การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ แต่การยึดติดกับเป้าหมายมากเกินไปอาจทำให้เราเสียสมดุลทางอารมณ์และการตัดสินใจ จงหันมาให้ความสำคัญกับกระบวนการ พัฒนาความสามารถในทุกๆ วัน เมื่อเราทำกระบวนการได้ดี เป้าหมายก็จะตามมาเองอย่างมั่นคงและยั่งยืน