KEY
POINTS
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการเดินเครื่องโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Huang Linh 4 (HL4) จังหวัดกวางจิ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หลังการไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนาม (EVN) อนุมัติรับซื้อไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา
สำหรับโครงการ HL4 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนามในอัตราราคาขาย 50% ของอัตราสูงสุดที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOIT) กำหนดไว้ที่ 1,587.12 ดองเวียดนามต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ 794 ดองเวียดนามต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
โดยส่วนต่างที่เหลือ เมื่อได้ข้อสรุปอัตราค่าไฟฟ้าขั้นสุดท้าย (Final FIT) กับทาง EVN แล้วจะได้รับชำระย้อนหลังทั้งหมด และจะชำระค่าไฟฟ้าในอัตราใหม่ตลอดไป
ทั้งนี้ โครงการ HL4 ถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 30เมกะวัตต์ ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Vietcombank (VCB) ซึ่งเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในเวียดนาม โดยได้รับการสนับสนุนเงินกู้กับ HL4 จำนวน 800,000 ล้านดอง หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยสามารถเบิกจ่ายได้ทันที 50% ของวงเงิน และส่วนที่เหลือจะสามารถเบิกได้ภายหลังการตกลงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้า (FIT) กับ EVN แล้วเสร็จ
“สำหรับข้อตกลงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้า (FIT) นั้น ได้เริ่มต้นการเจรจาทั้ง 4 โครงการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าโครงการ HL3 จะได้รับอนุมัติอัตรา FIT ภายในเดือนกันยายน นี้”
นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 99 เมกะวัตต์ ในอำเภอ Chu Prong จังหวัด Gia Lai สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้แก่
ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดส่งไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้ภายในเดือนตุลาคม นี้เช่นกัน โดยโครงการในจังหวัด Gia Lai นี้ ได้รับการสนับสนุนเงินกู้โครงการ (Project Finance) จากทาง Bank for Investment and Development of Vietnam (“BIDV”) ในวงเงินรวมประมาณ 2.3 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท (70% ของมูลค่าโครงการ) ซึ่งจะสามารถเบิกเงินกู้งวดแรก จำนวนประมาณ 1,500 ล้านบาทได้ทันทีหลัง COD
“การเดินเครื่อง HL4 ร่วมกับ HL3 ที่ COD แล้วเมื่อปีก่อน จะทำให้ EP มีรายได้และสภาพคล่องแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ การเบิกใช้เงินกู้จาก VCB สำหรับโครงการ HL4 และจาก BIDV สำหรับโครงการ Gia Lai ทั้ง 2 โครงการ รวมถึงเม็ดเงินจากการขายสินทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จะเพียงพอต่อการจัดการภาระหนี้สินของบริษัทฯ ได้ทั้งหมด ช่วยลดภาระดอกเบี้ย พร้อมต่อยอดโอกาสลงทุนใหม่ๆ ของ EP ในอนาคต เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”