เช็กวิธีคำนวณค่าไฟ หลังรัฐบาลอนุทินจ่อลด 4 สตางค์ต้นปี 69

19 ก.ย. 2568 | 07:27 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2568 | 07:27 น.

ตรวจสอบวิธีการคำนวณค่าไฟ คิดจากค่าอะไรบ้าง หลังรัฐบาลอนุทินจ่อลด 4 สตางค์เป็นอย่างน้อยต้นปี 69 ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้แล้ว

KEY

POINTS

  • รัฐบาลอนุทินมีนโยบายลดค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 4 สตางค์ต่อหน่วย โดยคาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นปี 2569
  • บทความอธิบายโครงสร้างค่าไฟฟ้าในปัจจุบันว่าประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก คือ ค่าไฟฟ้าฐาน, ค่า Ft, ค่าบริการรายเดือน และภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • แนะนำวิธีคำนวณค่าไฟด้วยตนเอง โดยเริ่มจากคำนวณค่าไฟฟ้าฐานตามอัตราขั้นบันได แล้วจึงนำไปรวมกับค่า Ft และภาษีมูลค่าเพิ่ม

ลดค่าไฟ 4 สตางค์ต่อหน่วยเป็นอย่างน้อย เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ถูกประกาศออกมาจากพรรคภูมิใจไทย ภายใต้รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

โดยระบุว่านายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่กาากระทรวงพลังงานคนใหม่กำลังจัดทำแนวทางว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปทำความเข้าใจกับวิธีการคำนวณค่าไฟในปัจจุบัน ว่าคิดมาจากอะไร และหากได้ลดลงอีก 4 สตางค์จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่

โครงสร้างค่าไฟ

อัตราค่าไฟฟ้าในบิลค่าไฟฟ้าปัจจุบัน จะประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ค่าไฟฟ้าฐาน ค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่า Ft) ค่าบริการรายเดือน และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและแนวทางที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนด โดยให้อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทเดียวกันต้องเป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ (Uniform Tariff) ปัจจุบันมีผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งหมด 8 ประเภท

  • บ้านอยู่อาศัย
  • กิจการขนาดเล็ก
  • กิจการขนาดกลาง
  • กิจการขนาดใหญ่
  • กิจการเฉพาะอย่าง
  • องค์กรไม่แสวงหากำไร
  • กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตรไฟฟ้าชั่วคราว
  • ไฟฟ้าชั่วคราว

ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าก็มีผลกับอัตราค่าไฟฟ้า นอกจากพื้นที่แล้ว ประเภทการใช้งานไฟฟ้าก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่กำหนดและควบคุมอัตราค่าไฟฟ้าอยู่เช่นกัน นั้นคือประเภทการใช้งาน โดนอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการคำนวณค่าไฟ จะแบ่งออกตามประเภทการใช้งานไฟฟ้า ดังนี้

เช็กวิธีคำนวณค่าไฟ หลังรัฐบาลอนุทินจ่อลด 4 สตางค์ต้นปี 69

ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าและอัตราค่าไฟ

บ้านพักอาศัย

  • ใช้ระบบขั้นบันได
  • มีค่าไฟฟรี 15 kWh แรก
  • เหมาะสำหรับครัวเรือนทั่วไป

กิจการขนาดเล็ก

  • อัตราค่าไฟเหมาจ่าย 3.77 บาท/kWh
  • ไม่มีค่าไฟฟรี
  • เหมาะสำหรับร้านค้า สำนักงานเล็ก

กิจการขนาดกลางและใหญ่

  • มีค่าไฟตามเวลาใช้งาน (TOU)
  • แบ่งเป็นช่วงเวลา On-Peak และ Off-Peak
  • มีค่าพลังงานสูงสุด (Demand Charge)

อุตสาหกรรม

  • อัตราค่าไฟต่ำสุด แต่มีเงื่อนไขการใช้ไฟสูง
  • ต้องมีการใช้ไฟขั้นต่ำตามที่กำหนด
  • มีระบบปรับค่าไฟตามปัจจัยต้นทุน

ค่า Ft คืออะไร

ค่า Ft (Fuel Adjustment Charge (at the given time)) คือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ที่เกิดจากการคำนวณค่าเชื้อเพลง ค่าซื้อไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะปรับขึ้นหรือลดลงตามค่าเชื้อเพลงที่แปรผัน 

แน่นอนว่าค่า Ft เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำมาคำนวณค่าไฟที่การไฟฟ้าเรียกเก็บแต่ละเดือน โดยมีวิธีคำนวณ ดังนี้

“ค่าไฟฟ้า = ค่าพลังงานไฟฟ้า+ค่าบริการรายเดือน+ค่า Ft+Vat 7%”

ทั้งนี้ หากต้องการประมาณการค่าไฟฟ้าง่ายๆ ก็สามารถคำนวณได้ผ่านระบบประมาณการค่าไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกันได้ เพียงกรอกประเภทไฟฟ้า, ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า, เดือน, ปีพุทธศักราช และปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบจะทำการคำนวณค่าไฟให้อัตโนมัติ

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าไฟแพงขึ้น

แม้ว่าในบางเดือนใช้ไฟน้อย แต่เมื่อถึงสิ้นเดือน ค่าไฟกลับแพงขึ้นกว่า สามารถสังเกตได้จาก 5 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

เช็กวิธีคำนวณค่าไฟ หลังรัฐบาลอนุทินจ่อลด 4 สตางค์ต้นปี 69

ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นสูง

ค่า Ft คือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ที่เกิดจากการคำนวณค่าเชื้อเพลง ค่าซื้อไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะปรับขึ้นหรือลดลงตามค่าเชื้อเพลงที่แปรผัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการปรับค่า Ft เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด มีไฟรั่ว

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟสูงหากชำรุด หรือเสียหาย อาจส่งผลให้กินไฟมากกว่าปกติ หากค่าไฟเพิ่มขึ้นสูง แนะนำให้เช็กเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ร่วมด้วย

สภาพอากาศ

สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือตู้เย็นทำงานหนักกว่าเดิม และกินไฟมากขึ้น

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าบางอย่างอาจส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ทำงานตลอดวัน การอาบน้ำด้วยเครื่องทำน้ำอุ่น หรือการเปิดเครื่องฟอกอากาศ ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นได้

โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าฐานแบบขั้นบันได ปี 2568

สำหรับผู้ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน (อัตรา 1.1)

  • 15 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-15) 2.3488 บาท/ยูนิต
  • 10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 16-25) 2.9882 บาท/ยูนิต
  • 10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 26-35)3.2405 บาท/ยูนิต
  • 65 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 36-100) 3.6237 บาท/ยูนิต
  • 20 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 101-150) 3.7171 บาท/ยูนิต

ค่าบริการ : 8.19 บาท/เดือน

สำหรับผู้ใช้ไฟเกิน 150 หน่วย/เดือน (อัตรา 1.2)

  • ขั้นที่ 1-5 : 3.2484 บาท/ยูนิต
  • ขั้นที่ 6 : 151-400 ยูนิต 4.2218 บาท/ยูนิต
  • ขั้นที่ 7 : เกิน 400 ยูนิต 4.4217 บาท/ยูนิต

ค่าบริการ : 24.62 บาท/เดือน

ขั้นตอนวิธีคิดค่าไฟด้วยตัวเอง

  • คำนวณค่าไฟฟ้าฐาน = คำนวณค่าไฟฟ้าตามขั้นบันได + ค่าบริการ
  • คำนวณค่า Ft = หน่วยไฟฟ้า × ค่า Ft ปัจจุบัน
  • คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม = (ค่าไฟฟ้าฐาน + Ft) × 7%

ตัวอย่างการคำนวณค่าไฟ: หากใช้ไฟฟ้า 180 ยูนิต

ขั้นที่ 1 : ค่าไฟฟ้าฐาน

150 ยูนิตแรก : 150 x 3.2484 = 487.26 บาท

ยูนิตที่ 151-180 : 30 × 4.2218 = 126.65 บาท

ค่าบริการตามอัตรา 1.2 = 24.62 บาท

รวมค่าไฟฟ้าฐาน = 638.53 บาท

ขั้นที่ 2 : ค่า Ft (0.3672 บาท/หน่วย)

180 × 0.3672 = 66.10 บาท

ขั้นที่ 3: ภาษีมูลค่าเพิ่ม

(638.53 + 66.10) × 7% = 49.32 บาท

“ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่า Ft + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = ค่าไฟฟ้าสุทธิ

638.53 + 66.10  + 49.32 = 753.95 บาท

อย่างไรก็ดี ค่าไฟปี 2569 จะเป็นอย่างไร คงต้องรอให้มีการประกาศนโยบายที่ชัดเจน เพื่อจะได้รู้ว่าค่า FT ที่จะต้องจ่ายมีอัตราเท่าไหร่ เพื่อจะสามารถนำมาคำนวณค่าไฟได้ว่าประชาชนจะลดค่าครองชีพได้แค่ไหน