KEY
POINTS
ตามที่ปรากฏข้อกล่าวอ้างในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์บางแห่งซึ่งเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ที่ปราศจากมูลความจริง ขาดข้อเท็จจริงรองรับ และมีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดความสับสนแก่สาธารณชน รวมถึงทำลายชื่อเสียงของ Chartered Group
อีกทั้ง มีความพยายามที่ไม่สุจริตในการก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโครงสร้างการลงทุนในหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และแหล่งที่มาของเงินลงทุน
บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด หรือ ACE ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BCP ใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1. เหตุผลในการเข้าลงทุน ACE ได้เข้าซื้อหุ้น BCP รวมทั้งสิ้น 275,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.0083% และ ACE ได้รายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ตามแบบ 246-2 เป็นที่เรียบร้อย
เหตุผลที่ ACE สนใจลงทุนใน BCP เกิดจากข้อเสนอของนายณัฐกร อธิธนาวานิช ซึ่งเป็นพันธมิตร (Local partner) ของ Chartered Group ในประเทศไทย โดยนายณัฐกรเล็งเห็นว่า BCP เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง สามารถขยายธุรกิจและพัฒนาไปสู่การเป็นผู้นำบริษัทพลังงานในระดับภูมิภาค อีกทั้งมีระดับราคาหรือมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสมและยังคงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
Chartered Group รู้จักนายณัฐกรตั้งแต่สมัยที่ทำงานอยู่กับบริษัท McKinsey & Company (Thailand) ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปี ในการลงทุนครั้งนี้ นายณัฐกร ในฐานะ Local partner จึงเป็นผู้จัดตั้ง ACE ขึ้นเพื่อใช้เป็นบริษัทในการลงทุน
โดยมีอำนาจควบคุมใน ACE ทั้งในระดับคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น และมีอำนาจตัดสินใจเต็มรูปแบบในการลงทุน รวมถึงการคัดเลือกบริษัทเป้าหมาย การทำ Due Diligence การบริหารและติดตามกิจการที่ลงทุน ตลอดจนการพิจารณาส่งกรรมการผู้แทนในบริษัทที่ลงทุน
2. โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ACE
- Alpha Global มีผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียว คือ นายณัฐกร อธิธนาวานิช
- Encore Issuance S.A. มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกับ Opus-Chartered Issuances S.A. (Opus SA) ซึ่งผู้ถือหุ้นที่แท้จริงและผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด (ultimate beneficial owners) ได้มีการเปิดเผยต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว เมื่อครั้งที่ Opus SA เข้าซื้อกิจการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
Alpha Global และ Encore Issuance S.A. จะได้รับประโยชน์ตามสัดส่วนที่ถือหุ้น และมีข้อตกลงที่จะไม่โอนหรือมอบหมายประโยชน์ดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่ากรณีใดๆ ACE ยืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ หรือการเกี่ยวข้องใดๆ กับนักการเมืองพรรคการเมือง หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตามที่ถูกกล่าวอ้างในรายงานข่าวล่าสุด
3. แหล่งที่มาของเงินลงทุน
รายงานที่เกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินลงทุนในการเข้าซื้อ BCP นั้นไม่ถูกต้อง ในข้อเท็จจริงนั้น ACE ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินแบบไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการรับรองและอนุญาตจาก Monetary Authority of Singapore (MAS)
การสนับสนุนดังกล่าวเกิดจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความน่าเชื่อถือของ Chartered Group โดยการจัดหาเงินทุนดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
4. สิ่งที่ ACE จะดำเนินการหลังจากการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BCP
การตัดสินใจลงทุนใน BCP มีพื้นฐานจากความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของ BCP ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพการในเติบโตที่สูง มีความสามารถในการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค และมีมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถใช้เครือข่ายและความเชี่ยวชาญเพื่อเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าบริษัทอย่างก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืนในอีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งการลงทุนดังกล่าวจะถือเป็น Flagship investment ของกลุ่มในระยะยาวอีกด้วย
ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้น BCP แล้ว ACE ได้เสนอผู้แทน 2 ท่านเป็นกรรมการของ BCP ได้แก่ นายณัฐกร อธิธนาวานิชและ Dr.Tomas Koch
นายณัฐกร อธิธนาวานิช : อดีตที่ปรึกษาบริษัท McKinsey & Company และผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการปรับโครงสร้างและพัฒนาธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงาน การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก
นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์โดยตรงในโครงการสำคัญเกี่ยวกับการพลิกฟื้นโรงกลั่นและปิโตรเคมีให้มีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัวภายในเวลา 3 ปีอีกด้วย
Dr. Tomas Koch : อดีต Senior Partner ของ McKinsey & Company เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง และมีประสบการณ์กว่า 33 ปีในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์องค์กร การเติบโต การยกระดับประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล โดยมีประสบการณ์ในโครงการมากกว่า 300 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงานและเคมีภัณฑ์ทั่วเอเชีย
Chartered Group และ ACE มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มบริษัท Chartered Group จะดำเนินการทางกฎหมายต่อการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในประเทศไทย กลุ่มบริษัท Chartered Group ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนระดับโลกที่บริหารและลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในหลายประเทศได้ออกประกาศฉบับพิเศษอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่ากลุ่มบริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อบุคคลและนิติบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นประมาทในสื่อและเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยกล่าวอ้างหรือสร้างความเข้าใจว่า
กลุ่มบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทยหรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) หรือ MFC และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เป็นต้น
กลุ่มบริษัทขอยืนยันอย่างชัดเจนว่ากลุ่มบริษัทไม่เคยมีและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมกับนักการเมือง พรรคการเมือง หรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มบริษัทเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Chartered Group ขอเรียนว่า กลุ่มบริษัทมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทยและจากความเชื่อมั่นของเราดังกล่าวท าให้เรามุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“ความพยายามใดๆ ที่จะทำลายชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองหรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ จะได้รับการตอบโต้ด้วยมาตรการที่เด็ดขาด และไม่ประนีประนอม รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อทุกฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ"
อนึ่ง ความพยายามที่จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันจะไม่ประสบผลสำเร็จและไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศไทย กลุ่มบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพและรักษามาตรฐานสูงสุดในการบริหารการลงทุนและกระบวนการทางธุรกิจทั่วโลก