โบรกส่องหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวต่อ มองทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง

05 ส.ค. 2568 | 02:46 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2568 | 02:47 น.

หุ้นไทยวันนี้ “ฟื้นตัวต่อ” ในกรอบ 1,210 - 1,240 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มแผ่ว กระตุ้นโอกาสในการลดดอกเบี้ยมากขึ้น เพิ่มแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยง SET ยังได้แรงหนุนทุนต่างชาติไหลเข้า

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (5 ส.ค. 68) ว่า คาดฟื้นตัวต่อ ในกรอบ 1,210 - 1,240 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มแผ่ว กระตุ้นโอกาสในการลดดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้น เพิ่มแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยง

โดยหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขภาคแรงงานที่อ่อนแอ ก็ยังพบตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศต้นสัปดาห์นี้อ่อนแอเช่นกัน นำโดยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน เดือน มิ.ย. -4.8% จากเดือนก่อน และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน มิ.ย. -9.4% จากเดือนก่อน

เริ่มกลับมาเป็นแรงกระตุ้นโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยช่วงถัดไปมากขึ้น โดยความน่าจะเป็นล่าสุดในการลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. และ ธ.ค. ขึ้นสู่ระดับ 98% และ 85% สะท้อนปีนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีโอกาสลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้ง

ด้านตลาดน้ำมันดิบ ย่อเป็นวันที่3 ตอบรับความกังวลจากอุปสงศ์ที่อาจชะลอตัวหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอ ผสานกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC เพิ่มแรงกดดันต่ออุปทานในช่วงถัดไป

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้แรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าโดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิราว 2.6 พันล้านบาท สอดคล้องกับ Valuation ของ SET ที่อยู่ในระดับไม่แพงนัก ซึ่งล่าสุดเทรดที่ PE 14.4 เท่า เทียบเคียงค่าเฉลี่ย PE 10 ปีย้อนหลัง ลบ 1.0 s.d.

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้คือ การรายงานงบ ของบริษัทจดทะเบียน และจับตาการเคลื่อนไหวของหุ้น THAI ซึ่งทุกการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น THAI 1 บาท จะมีผลต่อ SET ราว 2.25 จุด

ในขณะที่คืนนี้เกาะติด US ISM ภาคบริการ เดือน ก.ค. โดยคาดขึ้นสู่ 51.5 จุด จาก 50.8 จุด สำหรับกลยุทธ์ในช่วงนี้ยังเน้นย่อสะสมหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไร 2Q25 เติบโตดี  

ปัจจัยที่ต้องจับตา

05 ส.ค.

  • ดุลการค้าสหรัฐฯ
  • PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ & Eurozone & จีน & ญี่ปุ่น
  • US ISM ภาคบริการ
  • ดัชนี PPI ของ Eurozone

06 ส.ค. 

  • เงินเฟ้อไทย
  • ยอดค้าปลีกของ Eurozone
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

SAWAD ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์  22.50 บาท

  • การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้คาดอยู่ที่ระดับ 5 - 10% โดยมีแรงหนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก (เด่นกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ) ขณะที่แนวโน้มขาดทุนรถยึดจะค่อยๆ ลดลง
  • แม้กำไรไตรมาส 2/68 คาดจะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน แต่มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง 6.8 เท่า ถูกสุดในหุ้นจำนำทะเบียนขนาดใหญ่