โบรกมองตลาดหุ้นลงต่อ หลังทรัมป์ เก็บภาษีนำเข้าไทย เท่าเดิม 36%

08 ก.ค. 2568 | 06:11 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2568 | 06:11 น.

บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ลงต่อ หลัง ทรัมป์ ชี้ไทยจะถูกเก็บภาษี 36% ไม่เปลี่ยน กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน มองกรอบดัชนี 1,000-1,130 จุด แนะลงทุนหุ้น Defensive Stock หลบภัย ชู ADVANC-PR9-TISCO-BGRIM เด่น

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (8 - 11 ก.ค.68) มีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าประเทศต่างๆ อย่างน้อย 14 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.

โดยจะมีบางประเทศถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมันของนักลงทุนเรื่องความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าโลก มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,000 - 1,130 จุด

ด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงต้องเฝ้าระวัง แม้ว่าทรัมป์ได้เปิดเผยผ่าน การพูดคุยทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เกี่ยวกับความขัดแย้งในอิหร่านและยูเครน ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

และรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ มุ่งเป้าไปยังเครือข่ายลักลอบค้าน้ำมันอิหร่าน และสถาบันการเงินที่ควบคุมโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

ปัจจัยที่ต้องจับตา

นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ

  • วันที่ 8 และ 15 ก.ค. ศาลฎีกานัดสอบพยานคดีชั้น 14
  • วันที่ 8 ก.ค. ประชุมครม.
  • วันที่ 9 ก.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ
  • สัปดาห์ที่ 2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน และอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย
  • สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
  • สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
  • วันที่ 13 ส.ค. กำหนดประชุม กนง. ครั้งที่ 4/2568

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ

  • วันนี้ 8 ก.ค. ญี่ปุ่น รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ค., สหรัฐ รายงานการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนมิ.ย.
  • วันที่ 9 ก.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • เช้าวันที่ 10 ก.ค. เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่17-18 มิ.ย.
  • วันที่ 10 ก.ค. ญี่ปุ่น รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
  • วันที่ 12 ก.ค. จีน รายงานยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย.
  • วันที่ 29–30 ก.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งที่ 4/68

โบรกมองตลาดหุ้นลงต่อ หลังทรัมป์ เก็บภาษีนำเข้าไทย เท่าเดิม 36%

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ (Defensive Stock) ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยหุ้นหลบภัยที่น่าลงทุนสำหรับทางเลือกที่ตอบโจทย์ในภาวะเช่นนี้ได้แก่ ADVANC, PR9, TISCO และ BGRIM

ราคาทองผันผวน

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเผยว่าอย่างน้อย 14 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.

โดยจะมีบางประเทศถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น หากประเทศใดยังไม่บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ส.ค. 68 นี้

ขณะที่สหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 68 นี้เหลือ 2 ครั้ง จากเดิมคาด 3 ครั้ง เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ จึงมองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 3,275 – 3,365 ดอลลาร์/ออนซ์ เก็งกำไรในกรอบ