DITTO อวดไตรมาส 2/68 คว้าโปรเจ็กต์ใหม่เติมพอร์ตกว่า 600 ล้าน

01 ก.ค. 2568 | 09:07 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2568 | 09:07 น.

DITTO ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจซบเซา โชว์ฟอร์มไตรมาส 2/68 คว้างานใหม่เข้าพอร์ตกว่า 600 ล้าน มั่นใจปี 57 ยังคงษาะดับนิวไฮได้ต่อเนื่อง

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2568 ที่ผ่านมา DITTO และ บริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังคงมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มงาน Data Management ที่มีงานใหม่ๆ เข้ามาหลายโครงการ

โดยงานที่เพิ่งลงนามสัญญาไปล่าสุด คือ โครงการจ้างนำเข้าข้อมูลที่ดินเพื่อการจดทะเบียนออนไลน์ทั่วประเทศ เฟสที่ 4 ของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย งบประมาณ 139 ล้านบาท ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการโครงการนี้มาตั้งแต่เฟสแรกต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเฟส 4 ล่าสุด โดยแต่ละเฟสจะดำเนินการไปพร้อมๆ กันในหลายจังหวัดจน ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับงานโครงการในกลุ่มธนาคารรวมมูลค่างาน 49 ล้านบาท และงานในกลุ่ม บริษัทเอกชนและองค์กรของรัฐอื่นๆ อีกหลายโครงการ รวมมูลค่างาน 118 ล้านบาท และในส่วนของบริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเน้นงานวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี ในไตรมาสที่ 2/2568 ได้รับงานเพิ่มเติม มูลค่างานรวม 290 ล้านบาท

"แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยมีความผันผวนไม่แน่นอน จากปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายภาษีของทรัมป์ หรือสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล หรือแม้แต่ปัจจัยภายในที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราที่ต่ำและช้า โดยหลายธุรกิจอาจได้รับผลกระทบ แต่สำหรับบริษัทฯ และบริษัทย่อย ยัง สามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง"

ทั้งนี้ ธุรกิจของ DITTO ยังคงมุ่งเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งในเรื่องของโซลูชันส์และบริการด้านดาต้า รวมไปถึงงานวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าธุรกิจอื่น ๆ เพราะที่ผ่านมานั้น มีงานใหม่เข้ามาอย่าง ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน และการสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ให้กับลูกค้า

สำหรับครึ่งหลังปี 2568 นั้น คาดว่าประเทศไทยและเศรษฐกิจไทยจะมีความท้าทายมากขึ้น DITTO จึงให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างโซลูชันส์ใหม่ที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น

“สำหรับผลประกอบการ เชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันนี้ จะช่วยให้รายได้ทั้งปีน่าจะยังรักษา ระดับนิวไฮไว้ได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา”