นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (1 - 4 ก.ค. 68) ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สนับสนุนความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED )
โดยทาง FedWatch บ่งชี้ความเป็นไปได้ 76% ว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในเดือนก.ย. และมีโอกาสเพียง 19% ที่ FED จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดภายในเดือน ก.ค.
ส่วนปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังมีความเสี่ยงสูง หลังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ประกาศว่า ยังไม่มีการตกลงหรือให้คำมั่นใดๆ เรื่องจะกลับไปเจรจากับสหรัฐฯ แม้ขณะนี้ความตึงเครียดจะพุ่งสูงขึ้นมาก หลังอิสราเอลกับสหรัฐฯ โจมตีในพื้นที่อิหร่าน สวนทางกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศไว้ว่าสหรัฐฯ วางแผนจะคุยกับอิหร่านสัปดาห์หน้า
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการปรับครม. การยุบสภา และการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจที่ยังไม่มีความไม่แน่นอน ซึ่งในวันนี้ 1 ก.ค. 68 แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินชุดใหญ่จะนัดประชุมประเมินสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อยกระดับการต่อสู้และกำหนดทิศทางให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นจึงมองกรอบดัชนีที่ 1,050-1,120 จุด
นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ
วันนี้ 1 ก.ค.
วันที่ 9 ก.ค.
วันที่ 4, 8 และ 15 ก.ค.
วันนี้ 1 ก.ค.
วันที่ 2 ก.ค.
วันที่ 3 ก.ค.
วันที่ 29–30 ก.ค.
นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า คำแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ให้เน้นในหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งในวันนี้ (1 ก.ค.) ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจองที่พัก และเที่ยวจริงเริ่ม 4 ก.ค.
โดยรัฐบาลได้เชิญชวนคนไทยใช้สิทธิ์รับเงินสนับสนุนสูงสุด 3,000 บาท โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวได้แก่ AWC, MINT, ERW, CENTEL และ SHR เป็นต้น
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลายลง
อีกทั้งมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากประธาน FED เผยว่า FED ไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเนื่องจากยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีทรัมป์ อย่างไรก็ดี เครื่องมือ FedWatch Tool บ่งชี้นักลงทุนคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาด 2 ครั้ง หลังสหรัฐฯเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นปัจจัยหนุนทองคำ
ประกอบกับอาจมีแรงซื้อทางเทคนิคเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมหลังราคาทองคำปรับตัวลงแรง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสัปดาห์นี้แนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวมีผลต่อการตัดสินใจทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 3,230 - 3,350 ดอลลาร์/ออนซ์ หากหลุดแนวรับให้ชะลอการลงทุน