ย้ำสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่าน Thai ESGX โค้งสุดท้าย ก่อน 30 มิ.ย.นี้

24 มิ.ย. 2568 | 23:30 น.

ย้ำผู้ลงทุนยังใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านกองทุน Thai ESGX ทั้งในส่วนที่เป็นเงินลงทุนใหม่และเงินลงทุนที่สับเปลี่ยนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ได้ถึง 30 มิ.ย. 68

ตามที่ภาครัฐมีมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินลงทุนใหม่ใน Thai ESGX และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX ในช่วงพฤษภาคม - มิถุนายน 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงขอย้ำผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน Thai ESGX หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ไป Thai ESGX เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมาตรการตามที่ภาครัฐกำหนด

ย้ำสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่าน Thai ESGX โค้งสุดท้าย ก่อน 30 มิ.ย.นี้

สำหรับการลงทุนใน Thai ESGX โดยวิธีการสับเปลี่ยนจาก LTF ผู้ลงทุนจะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่ตนเองถืออยู่ทั้งหมด ทุกกองทุนในทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท รวม 5 ปี โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดของตนเองได้ทางหน้าเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุน Thai ESGX เงื่อนไขการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

สรุปสิทธิประโยชน์ทางภาษี

สรุปวงเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 วงเงิน ประกอบด้วย

วงเงินที่ 1 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนใน Thai ESGX สามารถเริ่มซื้อได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)

สำหรับกรณีการลงทุนด้วยเงินใหม่ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนและค่าธรรมเนียม ได้จากหนังสือชี้ชวนของ Thai ESGX แต่ละกอง รวมทั้งสามารถศึกษาขั้นตอนการซื้อกองทุน Thai ESGX ได้ที่ บลจ. แต่ละแห่ง

วงเงินที่ 2 สำหรับผู้ที่ถือหน่วยลงทุน LTF ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่แจ้งความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ทั้งหมดใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF) มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท ตั้งแต่ปีภาษี 2568 - 2572

โดยในปี 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท และปี 2569 - 2572 ให้ได้รับลดหย่อนเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี เช่น ผู้ถือหน่วยลงทุนสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX มูลค่า 380,000 บาท สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ดังนี้ ปี 2568 จำนวน 300,000 บาท และปี 2569 - 2572 ปีละ 20,000 บาท

สำหรับกรณีนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาเงื่อนไขการสับเปลี่ยนจาก LTF และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยน ได้จาก บลจ. ที่บริหารจัดการ LTF ได้ และสามารถดูข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดของตนเองได้ในที่เดียว เพื่อตรวจสอบและพิจารณาตัดสินใจสับเปลี่ยนจาก LTF เป็น Thai ESGX เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทางเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ

หมายเหตุ : 

ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดของ Thai ESGX ที่ได้รับอนุมัติจัดตั้งได้ที่

  1. https://market.sec.or.th/public/mrap/mrapdefault.aspx
  2. https://fundcheck.sec.or.th/main และ
  3. https://www.sec.or.th/SustainableFinance

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของ Thai ESGX ได้ที่ www.sec.or.th