SET แจงมาตรการ "ซิลลิ่ง-ฟลอร์" ใช้ชั่วคราว ย้ำไม่แทรกแซงการซื้อขาย

23 มิ.ย. 2568 | 06:23 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2568 | 06:23 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยมาตรการ "ซิลลิ่ง-ฟลอร์" ปรับใช้ชั่วคราว พร้อมยกเลิกก่อน 27 มิ.ย.68 หากสถานการณ์ไม่ผันผวนรุนแรง พร้อมย้ำไม่นิ่งนอนใจเดินสายโรด์โชว์กองทุนต่างชาติ-เร่งโครงการ TISA

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภูมิภาคและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งมองว่าด้วยปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน

เนื่องจากยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนอาจกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2568 ดังนั้น วานนี้ (22 มิถุนายน 2568) ทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว

โดยปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor ที่ระดับ 15% จากเดิม 30% และ Dynamic Price Band เป็นต้น เพราะต้องการให้นักลงทุนมีเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากทั่วโลกซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทุกชั่วโมง และมีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงเปรียบเสมือนการปรับเบรกของตลาดหุ้นไทยให้ตื้นขึ้นชั่วคราว

ส่วนมาตรการหรือกลไกอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วนั้น ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยังคงไว้เช่นเดิม เช่น เกณฑ์การหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) ที่มีมาตลอดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากดูจากสถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้ที่ราคาน้ำมันปรับตัวบวกขึ้นไประดับ 2%

ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาค อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แม้จะปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจต้องมอนิเตอร์กันต่อว่ามาตรการที่ใส่เข้าไปวันนี้ยังมีความจำเป็นแค่ไหน และควรจะถอดถอนเร็วแค่มากน้อยเพียงใดต่อไป

ทั้งนี้ ทางผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับมติจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ว่าสามารถเพิกถอนมาตรการชั่วคราวได้เร็วกว่าที่กำหนดวันที่ 27 มิ.ย.68 ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยหากสถานการณ์ไม่มีความจำเป็นหรือตลาดหุ้นไม่ผันผวนรุนแรงถึงกรอบที่ตั้งไว้ ตลาดหลักทรัพย์ฯก็พร้อมยกเลิกมาตรการชั่วคราวดังกล่าว

"ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้มีแผนที่จะห้ามการขายชอร์ต (Short Sell) ความตั้งใจคืออยากให้กลไกของตลาดดำเนินได้ตามปกติและไม่ได้ปิดโอกาสนักลงทุนทุกภาคส่วน มองว่าทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก ข่าวหรือข้อมูลข่าวสารที่ออกมาก็มีทั้งข้อมูลที่จริงและไม่จริง หน้าที่ของตลาดฯ คือ ช่วยเป็นตัวช่วยกรองและสื่อสารข่าวทั่วโลกในวันนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากจะบอกนักลงทุนทุกท่านต้องใจเย็น เพราะสถานการณ์ปัจจุบันทั่วโลกต้องนำมากลั่นกรองก่อนตัดสินใจในการลงทุน"

ในส่วนความคืบหน้าการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาตินั้น ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เดินทางไปโรดโชว์ สิงคโปร์ พบกับกองทุนหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มีความพร้อมในการลงทุน เพียงแต่ขณะนี้รอดูความชัดเจนของการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐ

"เรื่องฟันด์โฟลว์ที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี 68 ถึงปัจจุบัน ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดเดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนที่สิงคโปร์ มีโอกาสได้พบกับกองทุนหลายประเทศ จากการสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจากนโยบายที่ภาครัฐประกาศมาก็ชอบ เพียงแต่อยากเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้ได้จริงตามที่ภาครัฐวางแผนจะขับเคลื่อน"

สำหรับโครงการ TISA ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงสนับสนุนและเดินหน้า ส่วนตัวมองว่ายิ่งเกิดขึ้นเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับตลาดหุ้นและนักลงทุนไทย จากการศึกษาโมเดลจากหลายประเทศทั้งเกาหลีและญี่ปุ่น เชื่อว่าได้มีการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับนักลงทุนไทย

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและ บริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวเสริมว่า ขอยืนยันมาตรการชั่วคราวที่ตลาดหลักทรัพย์ฯออกมาเพื่อลดการแพนิกของตลาด แต่ไม่ได้แทรกแซงการซื้อขาย

โดยหากวันนี้หรือพรุ่งนี้ตลาดไม่ผันผวนมาก ตลาดหลักทรัพย์ฯก็สามารถที่จะถอนมาตรการนี้ได้ทันที เพราะบอร์ด ตลท.ได้มอบหมายอำนาจให้ผู้จัดการ ตลท.สามารถจัดการถอนได้โดยไม่ต้องผ่านการประชุมบอร์ด แต่คาดว่าการถอนมาตรการนี้คงไม่แทรกแซงระหว่างทางการซื้อขาย โดยอาจต้องรอหลังตลาดปิดทำการก่อน

"มองว่าสถานการณ์ช่วงนี้มีปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่ยังมีแรงกดดันต่อตลาดอยู่ โดยหากมีความจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมก็เป็นอำนาจหน้าที่ของที่ประชุมบอร์ดในการพิจารณา ซึ่งในปัจจุบันบอร์ดก็ได้เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา"