SET ยิ้มบจ. ใหญ่ตอบรับโปรเจ็กต์ JUMP+ ดี เตรียมเปิดตัว 26 มิ.ย.นี้

20 มิ.ย. 2568 | 11:39 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2568 | 11:39 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าคลอดโปรเจ็กต์ JUMP+ ยิ้มรับเปิดให้ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนการตอบรับดีเกินคาด กว่า 40 บริษัทให้ความสนใจ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 26 มิ.ย. 68

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดภายหลังจากเข้าร่วมประชุมหารือกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้ข้อมูลโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน (โครงการ JUMP+) และการส่งเสริมเศรษฐกิจ ชุมชน และตลาดทุน ว่า โครงการ JUMP+ เป็นหนึ่งใน Flagship projects ตามแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2568 - 2570

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทที่จดทะเบียน (บจ.) ได้ทำแผนงานความคืบหน้าการลงทุน โดยให้ค่าที่ปรึกษา ค่าส่วนลดที่ปรึกษา ตั้งแต่กระบวนช่วงที่ให้คำปรึกษาไปจนถึงขั้นระหว่างการดำเนินแผนงาน รวมถึงช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ 

เพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนให้กับ บจ. และตลาดหุ้นไทย โดยผลการตอบรับจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เข้ามาร่วมในวันนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ มี บจ. ที่มาร่วมรับฟังข้อมูลในเบื้องต้นวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ รวมกันกว่า 40 บริษัท

โดย บจ. ส่วนใหญ่มีการทำแผนงานการดำเนินและพัฒนาธุรกิจทั้งแบบ 1 ปี ไปจนถึง 3-5 ปี อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการที่เข้าร่วม โครงการ JUMP+ ก็จะมีที่ปรึกษา มีตัวช่วยให้การพัฒนาและต่อยอดธุรกิจในรูปแบบที่มีความย่ังยืนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้การสนับสนุนเงินทุนที่เป็นใช้จ่ายค่าที่ปรึกษาจากทาง โครงการ JUMP+ ร่วมด้วย

"หากถามถึงส่วนลดทางภาษีจากโครงการ โครงการ JUMP+ จะมีหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาก็มีการนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับทางกระทรวงการคลังอยู่บ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็แล้วแต่ว่าทางคลังจะพิจารณาว่าอย่างไร มีความเหมาะสมหรือไม่"

ทั้งนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการเปิดตัวโครงการ JUMP+ และเปิดให้ บจ. ที่มีความสนใจเข้าลงทะเบียนได้ในวันที่ 23 มิ.ย. 2568 นี้ อย่างไรก็ตาม ทางตลาดหลักทรัพย์วางเป้าหมายจะมี บจ. เข้ามาเป็นสมาชิกอย่างน้อย 50-100 บริษัทภายในปี 2568 นี้ และคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดให้ข้อมูลตัวโครงการ JUMP+
 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการ Jump+ มีเป้าหมายหลักเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเข้าใจสถานการณ์ตลาด วางแผนรับมือปัญหา และสื่อสารเป้าหมายกับนักลงทุนอย่างโปร่งใส เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุนในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

แม้ดัชนีตลาดหุ้นจะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอดีต แต่ตลาดทุนยังคงเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจ หากผู้ลงทุนมองระยะยาวและเข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจ ก็ยังมีโอกาสเติบโต โครงการนี้ยังสอดรับกับนโยบายแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ระบบสาธารณูปโภค การท่องเที่ยว พลังงาน และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิ์ถือครองที่ดินของต่างชาติ

"การทำ Jump+ คือการพัฒนาบริษัทขนาดเล็ก ที่อาจจะยังไม่มีบุคลากรไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะจ้างที่ปรึกษา ให้มีการพัฒนาที่ดีมากขึ้น ซึ่งได้มีการชี้แจงว่าจะต้องทำอะไรบ้างใน 1 ปี เพื่อที่จะทบทวนเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันให้ธุรกิจเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เหมือนกับที่บริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนี้เมื่อทำแล้ว จะต้องนำสิ่งที่คาดหวังหรือสิ่งที่ได้วางแผนมาเปิดให้นักลงทุนได้ทราบด้วย"