ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 13 มิ.ย.68 ณ เวลา 11.21 น. ยืนแดนลบที่ระดับ 1,125.30 จุด ลดลง 3.32 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.29% โดยในระหว่างการเปิดซื้อขายในภาคเช้าวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,126.33 จุด และ 1,121.25 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 18,062.31 ล้านบาท
แม้วันนี้จะมีประเด็นสงครามแถบตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน เข้ามากดดันให้ตลาดหุ้นโลกผันผวน แต่หนุนราคาน้ำมันเช้านี้ปรับเพิ่มขึ้น 8% โดยหากถ้าสถานะการยืดเยื้ออาจเห็นเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) มีโอกาสเคลื่อนย้ายเข้ามาตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะหุ้นไทยมีน้ำหนักหุ้นพลังงาน ราว 22%
ทั้งนี้ แม้ว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเปิดยืนแดนลบ แต่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีกลับเด้งขึ้นสวนตลาด นำโดย PTTTEP ณ เวลา 11.21 น. อยู่ที่ระดับ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 8.10% มีมูลค่าซื้อขาย 2,088.50 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น PTT อยู่ที่ระดับ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 2.48% มีมูลค่าการซื้อขายที่ 1,624.85 ล้านบาท และราคาหุ้น TOP อยู่ที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 4.35% มีมูลค่าการซื้อขายที่ 696.32 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส เผยในบทวิเคราะห์ว่า จากประเด็นเจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลเผยว่ามีการโจมตีหลายสิบจุดทั่วอิหร่าน ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล “อิสราเอล คัทซ์” ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพิเศษ พร้อมเตรียมรับมือการโจมตีตอบโต้ด้วยโดรนและขีปนาวุธ หลังมีรายงานเสียงระเบิดในกรุงเตหะรานจากสื่อท้องถิ่น ทั้งนี้อิหร่านเคยประกาศว่าจะตอบโต้กลับหากถูกโจมตี
การที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างสองประเทศที่เป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน และอาจนำไปสู่สงครามครั้งใหม่ในตะวันออกกลางส่งผลให้เช้านี้สินทรัพย์ต่างๆ นำโดยน้ำมันดิบ WTI พุ่ง +5.3% ทองคำขึ้นแรง +1% และตลาดหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ร่วงมากกว่า 1%
ประเด็นความไม่สงบในตะวันออกลาง อาจเป็น Sentiment เชิงลบต่อ SET Index แต่คาดมีหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นที่มีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักทั้งหมดเป็นตัวพยุง ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามราคาน้ำมันดิบขาขึ้น และยัง Laggard กับราคาน้ำมันนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ที่ +1.45% อาทิ PTTEP, PTT, BCP และ PTTGC เป็นต้น
ด้าน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า สถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น โดยอิสราเอลเริ่มโจมตีอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยเช้านี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นสู่ระดับ 74 เหรียญใกล้เคียงระดับสูงสุด เดิมในรอบ 2 เดือนครึ่ง
ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่าจะเป็นผลบวกกับ PTTEP อีกทั้ง Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง เทรดเพียง PE 6.6 เท่า และคาดอัตราการจ่ายปันผลสูงราว 7% ทำให้ PTTEP ทำให้มีความน่าสนใจ ประเมินราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 129.00 บาท