Liberator ชี้หุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,120 - 1,150 จุด

10 มิ.ย. 2568 | 02:22 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2568 | 02:22 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ "Sideways" กรอบ 1,120 - 1,150 จุด เจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีแนวโน้มที่ดี บวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แม้ปัจจัยในไทยยังรอความชัดเจน การเมือง-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 10 พ.ค.68 ว่า ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี

โดยนาย Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การเจรจาเป็นไปอย่าง “มีประสิทธิผล” เช่นเดียวกับ นาย Scott Bessent รัฐมนตรีคลัง ระบุว่าเป็น “การประชุมที่ดี” ส่วนด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “กำลังดำเนินไปได้ดีในการเจรจากับจีน แม้จีนจะเป็นฝ่ายที่ต่อรองยาก แต่ได้รับรายงานในเชิงบวก” 

ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างกัน จะดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่สอง (วันนี้) ที่กรุงลอนดอน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลด ความตึงเครียดเกี่ยวกับการส่งออกแร่ธาตุหายาก (rare earths) และการผ่อนปรนมาตรการส่งออกเทคโนโลยี เช่น ชิปและไอทีขั้นสูง โดยรวมคาดเป็นบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก 

ด้านราคาน้ำมันดิบโลกยังขานรับเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐฯกับจีน หนุนราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปิดที่ระดับ 67.13 เหรียญต่อบาร์เรล (+0.99%) ทำจุดสูงสุดใหม่รอบเดือนครึ่ง 

อย่างไรก็ดีสำหรับ SET ในระยะสั้นยังอาจมีแรงกดดันจากการขาดความ เชื่อมั่นผสานสภาพคล่องที่หดตัว รวมไปถึงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง และการรอความชัดเจนด้านการเมือง

ดังนั้นจึงอยู่ ในช่วงสร้างฐาน ส่วนปัจจัยวันนี้ที่น่าติดตาม คือ ประชุม ครม. คาดหวัง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มเติม

ปัจจัยที่ต้องจับตา

10 มิ.ย.

  • การประชุม ครม. 

11 มิ.ย. 

  • เงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ

12 มิ.ย. 

  • เงินเฟ้อ PPI ของสหรัฐฯ
  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

CCET ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท

  • รายงานยอดขายรายเดือน ประจำเดือนพฤษภาคม ที่ระดับ 385 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21.6% จากเดือนก่อน และขยายตัว 12.9% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 
  • คาดแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจะได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากโรงงานที่เพชรบุรี และโรงงานที่บราซิล ซึ่งจะหนุนให้กำไรและมาร์จิ้น ในช่วงครึ่งหลังปี 68 และ 2571 ปรับตัวสูงขึ้น